นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในที่ 26 พ.ย. 2562 กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งเป็นมาตรการที่ต่อเนื่องกับชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกไปก่อนหน้านี้เพื่อดูแลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ประกอบด้วย 3 มาตรการ ได้แก่
1. มาตรการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ผ่านการช่วยเหลือเกษตรกร โดยจะมีการจ่ายชดเชยค่าเก็บเกี่ยวให้กับผู้ปลูกข้าว รวมถึงแนวทางการช่วยเหลืออื่น ๆ เพิ่มเติม
2. มาตรการกระตุ้นการลงทุนในระดับพื้นที่ และชุมชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เนื่องจากการลงทุนขนาดใหญ่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว เช่น การนำค่าใช้จ่ายลงทุนมาใช้หักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า
3. มาตรการสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยจะเปิดให้ทุกสถาบันการเงินทั้งสถาบันการเงินของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ ให้เข้ามาร่วมปล่อยกู้สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งเชื่อว่าจะมีแรงจูงใจมากพอที่จะกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทย
สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาแนวทางการจัดตั้งกองทุนที่จะมาทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) นั้น ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กรมสรรพากร และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียดการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว โดยคาดว่าจะสามารถเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ทันก่อนสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ หลักการเบื้องต้น คือ การลงทุนในกองทุนใหม่ที่จะมาแทนกองทุน LTF เมื่อรวมกับการลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ (RMF) จะสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 5 แสนบาทต่อปี และจะต้องลงทุนในระยะยาว 10-15 ปี เพราะต้องการเน้นให้มีการออมในระยะยาวมากกว่ากองทุน LTF ที่ผ่านมา