คณะนักเรียน นักศึกษาและประชาชนปลดแอกจังหวัดสงขลา จัดกิจกรรมแฟลชม็อบหาดใหญ่ พร้อมแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและปล่อยตัวประชาชนที่ถูกจับกุมทั้งหมด ณ บริเวณหน้าค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
แถลงการณ์ของคณะนักเรียนฯ ระบุว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงของรัฐบาลเมื่อวันที่ 15 ต.ค. นั้นไม่เป็นการเคารพสิทธิประชาชนและสิทธิในการแสดงออกโดยสงบตามวิถีประชาธิปไตย โดยชี้ว่า การออกมาชุมนุมเรียกร้องของคณะนักเรียน นักศึกษา และประชาชนเมื่อวันที่ 14 ต.ค.นั้น ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยที่สามารถกระทำได้และผู้ชุมนุมได้ใช้หลักสันติวิธี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญที่สั่งสมมายาวนาน แต่รัฐบาลกลับใช้วิธีการที่รุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมรวมถึง การจับกุมแกนนำโดยไม่เคารพในสิทธิเสรีภาพตามวิถีระบอบประชาธิปไตย
นอกจากนี้ทางกลุ่มคณะนักเรียนฯ ยังเรียกร้องไม่ให้มีการรัฐประหารหรือรัฐประหารเงียบ และขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกพรรคทุกฝ่ายใช้กลไกรัฐสภาเข้ามาแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น มากกว่าที่จะใช้อำนาจทางการเมืองแบบเผด็จการ
'ฮัสซาน ทิ้งปากถ้ำ' จากกลุ่มนิสิตเพื่อประชาธิปไตยมหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่า ออกมาร่วมชุมนุมเพราะหลายสิ่งหลายอย่างถูกริดรอน โดยเฉพาะสิทธิของเราไป ความไม่เป็นธรรมต่างๆ ที่เกิดชึ้น รวมถึงอำนาจเผด็จการที่สืบทอดอยู่ในการเมืองไทย จึงอยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อแสดงจุดยืนว่าเราไม่เอาอำนาจเผด็จการ และเรียกร้องคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพวกเราในอนาคต
'ศุภกร ขุนชิต' สมาชิกคณะนักเรียนฯ กล่าวกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่า เราเห็นในแนวทางเดียวกับสิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯ เรียกร้อง เพราะข้อเรียกร้องทั้งหมดนั้นเป็นปัญหาที่สะสมกันมานานตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ และในฐานะเยาวชนที่จะต้องเติบโตไปกับสังคมแบบนี้ จะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับลูกหลานพวกเราในอนาคต
ทั้งนี้แฟลชม็อบของคณะนักเรียนฯ ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมประมาณ 1 ชม. ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจากค่ายเสนาณรงค์คอยสังเกตการณ์
อย่างไรก็ตามมีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดแฟลชม็อบในครั้งนี้เรียกร้องให้นักเรียน นักศึกษากลับบ้านและไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมืองอีก