นายมงคลกิตติ์ สุขสินารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ด้วยการติดแฮชแท็ก #SAVEส.ส. คือผู้แทนราษฎรไม่ใช่ลิง และอาหารของตนไม่ใช่กล้วย อาหารของตนคือ ความภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรฝ่ายประชาชนได้เต็มความสามารถ มีเสรีภาพ อิสระภาพ ในการแสดงออกที่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนได้ ส่วนของหวานนั้นคือ คำพิพากษา ให้จำคุกนักการเมือง อดีตนายทหาร ข้าราชการ นักธุรกิจที่โกงชาติ เอาเปรียบประชาชน บริหารประเทศแบบ "มีหัวไว้คั่นหู" 

ส่วนกำลังใจ และความสุขของตนคือ รอยยิ้มที่ประชาชนมอบให้ ที่ทำให้ตนเดินหน้าไปต่อได้แบบไม่เหนื่อย และตนเชื่อว่าประชาชนที่ได้เห็นผู้แทนราษฎรของเขาได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่จะชนะหรือแพ้ไม่เป็นไรขอให้ได้สู้เพื่อพวกเขา ตนเชื่อว่า ส.ส. ทุกคนไม่มีใครอยากเป็นลิงและไม่คิดจะเป็น

การโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นดังกล่าวของนายมงคลกิตติ์ เกิดภายหลังจากที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมาถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ประกาศแยกตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล หลังไม่พอใจที่ไม่ได้รับการจัดสรรโควตาในคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ว่า "ผมเป็นคนเลี้ยงลิง เลยต้องเอากล้วยให้ลิงกินตลอดเวลา ขณะนี้เชื่อว่ากินจนอิ่มแล้วน่าจะพอได้แล้ว เชื่อว่าปัญหาดังกว่านั้นไม่ต้องเคลียร์ เนื่องจากเป็นเรื่องที่อาจจะเข้าใจผิด เพราะนายพิเชษฐได้พูดคุยกับผมแล้ว โดยชี้แจงว่าไม่ได้สัมภาษณ์ว่าจะแยกออกจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อไปเป็นฝ่ายค้าน แต่เพียงมองว่าการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้ก่อเกิดประโยชน์ เลยจะขอแยกออกมาทำงาน พร้อมกับยืนยันว่ายังช่วยงานให้กับรัฐบาลอยู่ เชื่อมั่นว่าเสียงของรัฐบาลยังดีอยู่ ไม่ได้อยู่ในสภาวะเสียงปริ่มน้ำตามที่หลายฝ่ายกังวล ยอมรับว่าผมได้รับหน้าที่ให้ไปเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ได้ข้อยุติหากเกิดปัญหา อย่างไรก็ตามมั่นใจว่ารัฐบาลนี้อยู่ยาว ไม่ต้องเป็นห่วง" (ที่มา : มติชนออนไลน์)

"วรวัจน์" อัน "ธรรมนัส" เหยียบย่ำศักด์ศรีพรรคร่วมรัฐบาล มองเป็นแค่ลิง

นอกจากนายมงคลกิตติ์แล้ว นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย พูดถึงเรื่องนี้ด้วยว่า ตนฟังแล้วยังอึ้งไปเลย เพราะไม่คิดว่าคนจะมองกันแบบเหยียบย่ำศักดิ์ศรีขนาดนี้ มองพรรคเล็กที่ไปช่วยเขาว่าเป็นแค่นั้นหรือ ถ้าท่านยังรับเรื่องนี้ได้ในชีวิตนี้ก็ไม่มีอะไรที่ท่านจะรับไม่ได้อีกแล้ว มันเกินไป ตนไม่ได้พูดว่าให้อยู่หรือไม่อยู่ไป แต่เราคือนักการเมือง เราเป็นคนของประชาชน ที่ประชาชนเลือกมา เรามีศักดิ์ทีศรีของเรา ถ้าไปยอมทำตัวให้เขาดูถูกเหยียดหยามได้ขนาดนั้นก็ถือว่าหมดศักดิ์ศรีแล้ว จะเป็นผู้แทนของประชาชนได้อย่างไร ตนต้องขอเตือนเลยว่า อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่น

โดยนายวรวัจน์ เพิ่มเติมด้วยว่า เรื่องนี้พรรคพลังประชารัฐต้องออกมาขอโทษ ในสิ่งที่คุณพูดออกมา มีอะไรก็ควรไปพูดกันข้างหลังเพราะอย่างน้อยเค้าก็คือพรรคร่วมรัฐบาล คุณจะดูถูกเขาออกสื่อแบบนี้ไม่ได้ ในประวัติศาสตร์ทางการเมืองไม่มีนักการเมืองคนไหนถูกดูถูกมากถึงขนาดนี้ แล้วแบบนี้จะมองหน้ากันติดได้อย่างไร