ที่จังหวัดเลย นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และนายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ นำคณะทำงานพรรคอนาคตใหม่จังหวัดเลย จัดกิจกรรม "สร้างฝันวันใหม่ อนาคตใหม่จังหวัดเลย" เพื่อเสวนาถึงปัญหาในพื้นที่และร่วมรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญในแคมเปญ "จินตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่" ที่ทางพรรคอนาคตใหม่เปิดแคมเปญมาตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า รู้สึกได้รับเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาพูดคุยพบปะกับพี่น้องชาวเลยวันนี้ ในส่วนของทิศทางพรรคอนาคตใหม่ในช่วงนี้ โดยพรรคอนาคตใหม่มีความต้องการที่จะขยายฐานสมาชิกพรรค เราจะทำงาน 365 วันต่อปี เพื่อพี่น้องประชาชน เราจะจัดงานระดมทุนเพื่อทำงานให้เข้าถึงปัญหาในท้องถิ่นต่างๆ ส่วนงานในสภาผู้แทนราษฎร ที่จะผลักดันนโยบาย นำปัญหาจากพี่น้องประชาชนแต่ละท้องที่ ตั้งกระทู้ถามถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
สิ่งที่จะทำก่อนปิดประชุมสภาสมัยแรก คือ การผลักดัน 3 กฎหมายเร่งด่วน ได้แก่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ, พ.ร.บ.การรับราชการทหาร หรือยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และ พ.ร.บ.พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พร้อมระบุว่า นี่คือสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่จะผลักดันในสภาก่อนที่จะปิดประชุมสมัยในวันที่ 18 ก.ย.นี้
ด้านงานนอกสภา ประกอบไปด้วย การส่งทีมผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาผู้สมัคร คาดว่าประมาณสิ้นเดือนหน้าจะได้รายชื่อผู้สมัครแต่ละจังหวัด พี่น้องประชาชน สามารถส่งเรื่องร้องเรียนผ่านพรรคอนาคตใหม่ได้ที่ https://www.futurecommunity.co/hc/th และภายในเดือนนี้ระบบการรับเรื่องร้องเรียนจะเสร็จสมบูรณ์เพื่อรับเรื่องปัญหาความเดือดร้อนได้อย่างเต็มที่, การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ทางพรรคอนาคตใหม่พยายามรณรงค์กันอย่างแข็งขัน และเปิดแคมเปญครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม
"รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ถูกเขียนไว้ไม่ให้สามารถแก้ไขได้ในรัฐสภาโดยง่าย ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากการยึดอำนาจ และไม่ยึดโยงกับประชาชน เราจึงต้องการรัฐธรรมนูญที่รับใช้ประชาชนโดยแท้จริง เพื่อหาข้อตกลงการอยู่ร่วมกันในสังคม เราเคยมีรัฐธรรมนูญที่ยึดโยงกับประชาชนเมื่อปี 2540 ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนั้นเกิดจากฉันทามติของประชาชน แต่สุดท้ายก็ถูกฉีกและยกเลิกด้วยคณะรัฐประหารที่เรียกตัวเองว่า คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549"
"จากปี 2540 สมาชิกวุฒิสภา มีการเลือกตั้งมาโดยตลอด แต่รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 นี้ สมาชิกวุฒิสภามาจากการแต่งตั้ง และยังสามารถมีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาฯ ได้อีกด้วย และสิ่งสุดท้าย เราต้องการให้ทหารกลับเข้ากรมกอง เพราะทหารเป็นต้นเหตุหลัก หากทหารเข้ามาแทรกแซงการเมืองจะทำให้ประเทศไทยไม่ก้าวไปข้างหน้า และชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนจะเดือดร้อนอย่างทุกวันนี้"
พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ไทยมีรัฐประหาร 2 ครั้ง มีรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ เกิดความขัดแย้งทางการเมืองลงไปทุกพื้น เราปล่อยให้ประเทศไทยติดหล่มอยู่สภาพแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว หากแต่เรายังตกลงกันไม่ได้ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างไร รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 เป็นเหมือนระเบิดเวลา ทำให้สังคมไทยขัดแย้งกันมากขึ้น เราจึงจะต้องหยุดระเบิดเวลาอันนี้ก่อนที่มันจะระเบิด
พรรคอนาคตใหม่เสนอกรอบฉันทามติต่อสังคม 4 ข้อกว้างๆ ได้แก่ 1. ประชาธิปไตยอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน 2. มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีพระราชฐานะอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง 3. มีระบบรัฐสภาที่แสดงออกซึ่งเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง มีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ มีเสถียรภาพ 4. มีนิติรัฐ สิทธิเสรีภาพของประชาชนได้รับความคุ้มครอง มีระบบตรวจสอบการใข้อำนาจ
การแสวงหาฉันทามติครั้งใหม่นี้ ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดของสังคมไทย ส่วนช่องทางแรกที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมลงฉันทามติแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ คือ แคมเปญ "จินตนาการ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่" ซึ่งติดตามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก New consensus Thailand พรรณิการ์ กล่าว
ด้าน นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยเรานั้น ชัดเจนว่า มีกลุ่มคนเพียงน้อยนิดที่ได้ประโยชน์จากโครงสร้างสังคมและการเมืองแบบนี้ โครงสร้างสังคมที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำกว้างขวางขึ้นอยู่เรื่อยๆ ตนคิดว่า เราควรจะใช้สิทธิของความเป็นประชาขนในประเทศนี้ สร้างประเทศนี้ไปตามจินตนาการของประชาชน ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่ จึงได้รวมตัวจากกลุ่มคนที่หลากหลาย โดยมองเห็นถึงปัญหาดังกล่าว เพื่อสร้างพรรคการเมือง ที่มีทิศทางแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ซึ่งต้องไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งเป็นเจ้าของพรรค
ประชาชนทุกคนที่มีความคิดความเห็นร่วมกันคือเจ้าของพรรคที่แท้จริง และตนเชื่อว่าการกระจายอำนาจคืนท้องถิ่น จะทำให้ประชาธิปไตยกินได้ นั่นคือการแก้ไขปัญหาในท้องถิ่น ประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆ ต้องเป็นคนจัดการ เพราะไม่มีใครรู้ต้นตอของปัญหาอย่างลึกซึ้งเท่ากับคนในท้องที่ ตนไม่เชื่อว่ารัฐบาลส่วนกลางจะรู้ปัญหาท้องถิ่นของพี่น้องประชาชนทุกมิติ และไม่เชื่อว่ารัฐบาลส่วนกลางจะแก้ไขปัญหา เนื่องจากรัฐบาลไม่มีกลไกเข้าถึงปัญหาได้ทุกมิติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงแรกของกิจกรรม พรรคอนาคตใหม่เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคร่วมโหวตปัญหาในท้องถิ่นจังหวัดเลย และปัญหาที่สมาชิกโหวตมากที่สุด คือ 1.ปัญหาพืขผลทางการเกษตร 2.ปัญหาระบบสาธารณูปโภค การ ไฟฟ้า, น้ำประปา, ถนน และ 3.ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม โดยทีมจังหวัดจะส่งเรื่องถึงส่วนกลางและพรรคอนาคตใหม่จะผลักดันตั้งกระทู้ถามในสภาฯ เพื่อแก้ไขและพัฒนาปัญหาท้องถิ่นในจังหวัดเลยต่อไป