ไม่พบผลการค้นหา
คณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 2/2 ได้ฤกษ์ทำงานเสียที หลังจบศึกเเย่งชิงเก้าอี้เสนาบดีกันเองของแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่หวังครองชิ้นปลามันหลังจาก ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’และกลุ่มสี่กุมารไขก๊อกสิ้นสุดอำนาจในพรรคพลังประชารัฐ

ตำแหน่งรัฐมนตรี (รมต.) หลัก ซึ่งแกนนำ พปชร.หมายปองนั้น ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม หักดิบโผ ครม.ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตามที่ ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำไปเสนอแบบดื้อๆ

แรงไม่พอใจของ “เเกนนำหลายมุ้ง” ยังมีอยู่ในใจ แต่กติกาเเละภาวะการเมืองยามนี้ไม่เอื้อให้ฝ่ายที่ไม่พอใจขยับตัวไม่ได้เพราะติดล็อกหลายชั้น จึงต้องประคองตัวและพยายามเก็บแต้มต่ออันน้อยนิดไว้ไปหาเสียงกับชาวบ้าน เพราะเเรงเสียดทานหลายด้านรุมเร้าเรือเหล็กให้ส่ออับปางเนืองๆ

ภาวการณ์การเมืองที่มีแรงบีบแบบนี้ ‘แกนนำหลายมุ้ง’ ใน พปชร.ทราบกันดี 

แต่ได้ยินเสียงแว่วมาว่า ‘การต่อรองเก้าอี้ยังมีอยู่’ โดยควันหลงจากวันนั้นยังคละคลุ้งฟุ้งกระจายอยู่มิจางหายใน พปชร. โดยเฉพาะตำแหน่ง ‘เลขาธิการพรรค’ ซึ่งนับเป็นหมายเลขสองรองจากหัวหน้าพรรคนั้น แว่วมาไกลๆ จากถนนรัชดาภิเษกว่าไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการทวงสัญญาใจคืนกลับ...

ประวิตร พลังประชารัฐ อนุชา นาคาศัย  11321478.jpg

โดย 'เสี่ยแฮงก์' - 'อนุชา นาคาศัย' รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. พ่อบ้านพรรคคนปัจจุบันไปตกลงกับ 'รองหัวหน้าพรรคบางคน' ไว้ว่าขอให้ได้รับตำเเหน่งเลขาธิการพรรค เพื่อที่จะได้รับหน้าที่เสนาบดีในคราวนี้ก่อน แล้วจะคืนเก้าอี้เลขาธิการพรรค พปชร. ให้กับ ‘อดีตผู้กอง’ รองหัวหน้าพรรคผู้มีมลทิน ตอนนี้เป็นหนึ่งในรมต.บนเรือเหล็ก ที่มีการพูดกันเนืองๆ ว่าดูเเลพี่-เพื่อน-น้องทุกคน และหวังใจว่าวันข้างหน้าพร้อมจะรับไม้การเมืองต่อจาก ‘3ป.’

จังหวะก้าวการเมืองที่รองหัวหน้าพรรคคนนั้นวางไว้นั้น ในแวดวงลือกันว่าไม่ธรรมดา เพราะความฝันวันข้างหน้าของคนๆ นี้คือ ‘ผู้จัดการรัฐบาล’

ตำแหน่ง ‘ผู้จัดการรัฐบาล’ ในบริบทการเมืองนั้นนับว่าสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว หากไล่เรียงจากอดีต โดยนับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง (นับจากรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่มีการตั้งรัฐบาลผสมจากหลายพรรคการเมือง) เลขาธิการพรรคคือบันไดขั้นต้นในการเดินเข้าสู่ชั้นสอง ‘ตึกไทยคู่ฟ้า’

‘พล.อ.เปรม’ ในวันนั้นเลือกใช้บริการของ ‘บิ๊กจิ๋ว’ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เเละ ‘พล.อ.มงคล อัมพรพิศิษฏ์’ เดินเกมหลังบ้าน ต่อมา ‘พล.อ.ชวลิต’ ไปตั้งพรรคความหวังใหม่แล้วได้เป็นหัวหน้ารัฐบาล

ชวลิต รัฐสภา 000_SAHK980624269970.jpg

ในยุค ‘พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ’ เลือกใช้ ‘มังกรเติ้ง’ บรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยในตอนนั้น ต่อมา 'เติ้งเสี่ยวหาร' ได้เป็นหัวหน้าพรรค จนได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย

ยุค ‘ชวน หลีกภัย’ ใช้บริการ ‘เสธหนั่น’ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ สองครั้ง (รัฐบาลชวน1เเละชวน2 อันเป็นบ่อเกิดตำนานงูเห่าอันลือลั่น)

แม้ ‘เสธ.หนั่น’ จะไม่รับเก้าอี้ สร.1 หลังคดียุบ 3 พรรคการเมืองเมื่อปลายปี 2551

แต่ ‘เสธ.หนั่น’ ก็ส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ‘ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์’ ขึ้นชั้น รมต.ได้หนึ่งสมัยในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

‘บรรหาร’ แห่งพรรคชาติไทย ขณะครองเก้าอี้นายกฯ มอบหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาลให้ ‘เสนาะ เทียนทอง’ เจ้าพ่อวังน้ำเย็นในคราวนั้นรับบทนี้ โดยวันนั้น “ป๋าเหนาะ” อกหักต้องไปบริหารกระทรวงสาธารณสุข แทนกระทรวงคลองหลอด เพราะ ‘บรรหาร’ นั่งควบเก้าอี้นี้เอง เพื่อหย่าศึกการแย่งเก้าอี้ มท.1 ระหว่าง 'ป๋าเหนาะ' กับ 'วัฒนา อัศวเหม' ที่ต้องไปเป็นรมว.แรงงาน

บรรหาร 1935_1309529745740421_3763482738083261501_n.jpg

ด้าน 'พล.อ.ชวลิต' ได้ตั้ง ครม.ความหวังใหม่โดยทาบ 'ป๋าเหนาะ' มาเป็นพ่อบ้านพรรค โดยตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ตกเป็นรางวัลชีวิตให้เจ้าพ่อวังน้ำเย็น และเมื่อเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง แล้วมีแรงบีบ ‘พ่อใหญ่จิ๋ว’ เป็นเหตุให้ ‘พล.อ.ชวลิต’ ต้องลาออก 

ขณะนั้นมีการส่งไม้ให้ 'น้าชาติ' จากพรรคชาติพัฒนา โดย 'ป๋าเหนาะ' เดินเกมล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาล แต่พ่ายไป เพราะสุดท้าย ‘มนตรี พงษ์พานิช’ จากพรรคกิจสังคมและ ส.ส.กลุ่มปากน้ำจากพรรคประชากรไทย ที่เป็นตำนานชาวนากับงูเห่าถูก ‘เสธ.หนั่น’ ทาบไปร่วมงานตั้ง ‘ครม.ชวน 2’

ต่อมา ‘ดร.ทักษิณ ชินวัตร’ จากพรรคไทยรักไทย ได้ไปเชิญ 'ป๋าเหนาะ' มาร่วมพรรค พร้อมปั้นให้ ‘ดร.ทักษิณ’ ได้เป็นหัวหน้ารัฐบาลและเป็นกองหนุนในการตั้ง ‘ครม.ไทยรักไทย’ สมัยที่สอง

ทักษิณ สภา รัฐสภา ไทยรักไทย H2001020937312.jpg

ขณะเดียวกัน ‘สมัคร สุนทรเวช’ จากพรรคพลังประชาชน ได้ ‘เนวิน ชิดชอบ’ - ‘นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี’ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เเละ ‘ยงยุทธ ติยะไพรัช’ มาช่วยประสานงานจนสมัครได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีสและ รมว.กลาโหม หรือสนามไชย1 แต่บทบาทของ ‘เนวิน’ ชัดแจ้งกว่าในยามนั้น เพราะเป็นหนึ่งใน ‘แก๊งออฟโฟร์’ ที่หนุน 'สมัคร' จนนาทีสุดท้ายบนถนนการเมือง

ก่อนที่ ‘เนวิน’ จะเป็นเจ้าของวรรคทอง “มันจบเเล้วครับนาย!” เพราะขาใหญ่บุรีรัมย์ย้ายขั้วไปหนุนพรรคประชาธิปัตย์สีฟ้าและสร้างอาณาจักรสีน้ำเงินคือพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน

คณะรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ สุเทพ kg1955851.jpg

‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ แห่งประชาธิปัตย์ ได้ 'สุเทพ เทือกสุบรรณ' เลขาธิการพรรค ปชป. ทำหน้าที่พ่อบ้านรัฐบาลและมือดีลลับ โดย 'สุเทพ' ไปทาบ 'เนวิน' ให้สลับขั้วครั้งใหญ่บนถนนการเมืองมาหนุน 'อภิสิทธิ์' เดินเข้าตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งๆ ที่เป็นพรรคอันดับสองรองจากพรรคเพื่อไทยในตอนนั้น!

‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ได้หลายขุนพลจากพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนรวมทั้งเพื่อไทยช่วยส่ง ‘นารีขี่ม้าขาว’ 49 วันจนชนะเลือกตั้ง

ครม.ใหม่ อนุชา นาคาศัย ประวิตร คณะรัฐมนตรี

‘พล.อ.ประยุทธ์’ พ่อบ้านพรรคตัวจริงคือ ‘พล.อ.ประวิตร’ เเละใช้อดีตผู้กองดีลกับพรรคมินิเพื่อรวมเสียงตั้ง ครม.เรือเหล็กเเซงพรรคเพื่อไทยในฐานะที่ได้เสียง ส.ส.มากที่สุดในสภาฯ ไปเเบบค้านสายตาคนดู

ประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในวันวานกับบทบาทผู้จัดการรัฐบาลนั้นจะเห็นเเล้วว่าสำคัญเพียงใด จึงมิเเปลกในวันนี้หากใครบางคนใน พปชร.จะทวงสัญญาใจคืนจาก ‘เสี่ยเเฮงก์’ สานฝันนั่งเก้าอี้แม่บ้าน พปชร. ก่อนต่อยอดความฝันในฐานะมือดีล ขึ้นแท่น ‘ผู้จัดการรัฐบาล’ ในวันข้างหน้า