ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท โชว์ใบรับรองแพทย์ เพื่อยืนยันว่าตาบอดจริง โดยเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลพญาไท 1 ซึ่ง พญ.ณฐมน ศรีสำราญ วินิจฉัยว่าเป็นโรคตาขวาบอด (blindness right eye) จึงได้นำใบรับรองแพทย์นี้มายื่นให้กับนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ผ่านทีมงานที่หน้ารัฐสภา โดยวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคมนี้ ได้ตอบรับนัด นายสิระ เพื่อวางเงินเป็นหลักประกัน ที่บ้านทรงไทย ถ.แจ้งวัฒนะ ส่วนการพิสูจน์ข้อเท็จจริง นายสิระ ขอเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไปก่อน ซึ่งตนก็พร้อม จะให้ตรวจกี่ร้อยหมอก็ได้ เพราะไม่ซีเรียสเรื่องเงิน เนื่องจากต่างฝ่ายก็ต้องการนำเงินไปมอบให้คนไร้บ้าน พร้อมยอมรับที่ผ่านมามีการพูดคุยกับนายสิระอยู่ตลอด ซึ่งนายสิระเองก็เป็นคนที่สุภาพ
สำหรับอาการของดวงตาขณะนี้ ไม่เจ็บ แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ และด้วยเทคโนวันนี้ยังไม่สามารถรักษาได้ ยังไม่ได้คิดเรื่องใส่ดวงตาเทียม เป็นเรื่องของอนาคต ส่วนที่นายสิระ อ้างแหล่งข่าวบอกว่า ตนมองเห็น 15% นั้น นายธนัตถ์ ย้อนถามว่า แหล่งข่าวจากไหน ตนอยากได้การมองเห็นกลับมา ถ้าจ่าย 100 ล้านบาท ก็ยอม
สำหรับความตั้งใจในการเปลี่ยนนามสกุลนั้น ยอมรับว่า ตนเป็นตัวของตัวเอง ไม่อยากให้เหมารวมใคร ส่วนความสัมพันธ์ในครอบครัวยังเหมือนเดิม แต่ส่วนตัวชอบนามสกุลที่ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ หรือท่านหญิงแม่ตั้งให้ แต่สำนักงานเขตไม่น่าจะให้ใช้
อย่างไรก็ตามนธนัตถ์ กล่าวว่า มนุษย์เรามีสิทธิ์ มีเกียรติ ถ้าไม่มีเกีรยติจะเกิดมาทำไมในการเรียกร้องต่อสู้ประชาธิปไตย ของตนไม่ใช่แค่ดวงตา แต่ตนพร้อมมอบชีวิต และเอาชีวิตเดิมพัน โดยย้ำว่าการเมืองต้องดีขึ้น ถ้าจะหยุดตน ก็ต้องฆ่าตนให้ตาย
สำหรับความไม่สบายใจสังคมในเรื่องการแต่งกายไปชุมนุม เมื่อวันที่ 22ส.ค.ที่ผ่านมา นายธนัตถ์ กล่าวว่าอะไรที่กระทบจิตใจใครเกินไปขอโทษด้วย พร้อมย้ำว่า ตรไม่อยากเป็นศัตรูกับพี่ โดยเฉพาะนางทยา ทีปสุวรรณ และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เพราะการจัดคาร์ม็อบที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ไปบ้านของทั้งคู่ย่านสุขุมวิท เพราะตนก็ปกป้องพี่ๆทั้งสองคน เพราะเขาไม่มีที่ยืนหรือตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว
สิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ตั้งข้อสังเกตใบรับรองแพทย์ของนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวจ หรือ "ลูกนัท" ว่าผู้ที่ออกใบรับรองให้เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริงหรือไม่เพราะตนเองได้ไปสอบถาม แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ แล้วว่าการวินิจฉัยโรคไม่สามารถเขียนแบบนี้ได้ เพราะภาษาที่ใช้ไม่ใช่ภาษาทางการ แพทย์เพราะเขียนแค่ว่า "ตาขวาบอด" ซึ่งตรงกับคำพูดของตนเองที่เคยพูดไว้ว่าหากตาบอดจริงจะให้เงินหนึ่งล้านบาท และเชื่อว่า เขียนเพื่อเอาเงินหนึ่งล้านบาท และ ผิดสังเกตตรงที่การออกไปรับรองแพทย์ในเวลา 3 ทุ่ม
ดังนั้น ตนจะร้องไปอย่างแพทยสภาเพื่อให้ตรวจสอบว่าแพทย์หญิงคนดังกล่าว มีความรู้ความสามารถเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริงหรือไม่และสามารถลงความเห็นแบบนี้ได้หรือไม่ พร้อมร้องไปยังโรงพยาบาลพญาไทให้มีการตรวจสอบด้วยเช่นเดียวกัน สิระ กล่าวเพิ่มเติมว่าถ้าแพทย์คนดังกล่าวเป็นเจ้าของไข้จริงหากคนไข้ตาบอดจริงๆต้องเอาลูกตาออกเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบ
ส่วนเหตุผลที่ตนเองไม่เชื่อว่าตาบอดจริงเพราะแผลอยู่บนดวงตาไม่ได้โดนลูกตา แต่วิธีการแก้ไขง่ายงๆ คือ การให้คนไข้นอนนิ่งๆ เพื่อให้ดวงตาฟื้น พร้อมฝากถึง ธนัตถ์ ว่า ถ้าอยากได้เงินหนึ่งล้านบาท ให้เอาเอกสารมายืนยัน ตนพร้อมจะเล่นแฟร์ๆอยู่แล้ว ก่อนจะกล่าว ทิ้งท้ายว่า "แหกตาตัวเองได้ แต่ไม่สามารถแหกตาคนทั้งประเทศได้ "
นอกจากนี้ สิระ ยัง กล่าวถึงกรณีที่สื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่เชิญ ธนัตถ์ ไปออกรายการและให้แหกลูกตาไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเป็นอันตรายต่อดวงตา โดยเฉพาะแสงที่อยู่ในสตูดิโอ จึงขอให้ผู้บริหารช่องดังกล่าวตรวจสอบพิธีกรผู้ดำเนินรายการว่าบัตรหน้าที่โดยถูกต้องหรือไม่