ไม่พบผลการค้นหา
โฆษก ปชป. วอนทุกฝ่ายรอฟังคำวินิจฉัยศาล รธน. คดียุบพรรคอนาคตใหม่ เชื่อศาล รธน. ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซัดพรรคอนาคตใหม่กดดันศาล รธน. ไม่สู้ด้วยข้อเท็จจริง สร้างความแตกแยกขัดแย้ง

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีมีคนยื่นให้วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ วันที่ 21 ม.ค.นี้ ว่า ขอให้ทุกฝ่ายรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบได้ ศาลรัฐธรรมนูญให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอยู่แล้ว อย่าเป็นกังวล โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ที่ทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคออกมาพูดจาในลักษณะกดดันศาลรัฐธรรมนูญ ผูกโยงคดีกับเรื่องอื่นๆ เสียดายที่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ต่อสู้ข้อเท็จจริงตามกระบวนการอย่างเต็มที่ แต่มุ่งทำลายความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญมากกว่า ถึงขนาดขู่ศาลรัฐธรรมนูญว่าหากตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ ศาลกำลังจะผลักไสกลุ่มคนจำนวนมากในสังคม ให้ไปอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถาบันพระมหากษัตริย์

แนวคิดนี้ถือว่าเป็นแนวคิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับคนที่อ้างตนว่าเป็นอาจารย์ทางกฎหมาย เป็นแนวคิดที่ไม่เคารพประเพณีวัฒนธรรม มุ่งแต่จะทำให้สังคมแตกแยกเกิดความขัดแย้ง ถ้าแนวคิดของอนาคตใหม่เป็นแบบนี้ยากที่จะทำทำงานการเมืองด้วยจิตบริสุทธิ์  

นายราเมศ ย้ำว่า ไม่ว่าผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาในทิศทางใดขอให้ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะวุ่นวายไม่รู้จบสิ้น

อย่างไรก็ตาม นายราเมศไม่ได้ระบุว่า การพูดจาของนายปิยบุตรที่มีลักษณะ 'กดดัน' และ 'ขู่' ศาลรัฐธรรมนูญว่ากำลังจะผลักไสกลุ่มคนจำนวนมากในสังคมให้ไปอยู่ฝั่งตรงข้ามสถาบันพระมหากษัตริย์ มาจากเหตุการณ์ใด และไม่ได้มีการอ้างถึงข้อความโดยตรง

ก่อนหน้านี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้ขึ้นกล่าวในหัวข้อการแถลงปิดคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ภายในงาน 'Future is now - อย่ากลัวอนาคตใหม่' ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตนและนายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ ไม่คิด ไม่เคยคิด และไม่กระทำการอันเป็นการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยแน่นอน ตนและพรรคยืนยันในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ความหมายของระบอบนี้คือการเอาสถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันประชาชนมารวมกัน สถาบันกษัตริย์เป็นหลักประกันของรัฐไทย ประชาชนเป็นสถาบันของรัฐสมัยใหม่

นายปิยบุตรกล่าวด้วยว่า ในระยะหลังมีการประดิษฐ์คำใหม่ขึ้นมา เช่นคำว่า ปฏิกษัตริย์นิยม แต่ยืนยันว่าตน นายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ ไม่ใช่คนเหล่านี้ แต่ต้องการให้ประเทศไทยพัฒนาภายใต้ระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาธิปไตยสามารถรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ยั่งยืนต่อไป แต่อำนาจเผด็จการทหารมากกว่าที่กัดเซาะบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ เหมือนอย่างที่หลายประเทศเป็น ความคิดแบบ Hyper-royalist หรือกษัตริย์นิยมล้นเกิน และ Ultra-royalist หรือผู้เกินกว่าราชา ก็บั่นทอนและทำลายสถาบันกษัตริย์เช่นเดียวกัน 

นอกจากนี้ นายปิยบุตรทิ้งท้ายว่า 21 มกราคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะขึ้นบัลลังก์เพื่อพิจารณาตัดสิทธิ์ตนและนายธนาธร พร้อมยุบพรรคอนาคตใหม่ แม้ตนจะเชื่อว่าจากหลักฐานที่มีไม่สามารถที่จะยุบพรรคได้ แต่ปากกาไม่ได้อยู่ที่ตน ที่ผ่านมามีแต่กระแสว่ายุบแน่ มันแสดงให้เห็นว่าการยุบพรรคไม่ใช่เรื่องของกฎหมายอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องการเมือง เพราะเขาวิเคราะห์ว่าตนและนายธนาธรเป็นอันตรายต่อการเมืองในปัจจุบัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง