ที่รัฐสภา เกียกกาย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.มหาสารคาม พร้อมด้วยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย และนายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ แถลงตั้งกรรมการตรวจสอบจริยธรรม 2 ส.ส. ที่ไปร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ จ.สุรินทร์
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า วันนี้จะยื่นหนังสือให้แก่ นายสมพงศ์ เพื่อให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการภายในพรรค เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มี ส.ส. พรรคเพื่อไทย 3 คนไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ จ.สุรินทร์ ทั้งนี้นายยุทธพงศ์กล่าวว่า สำหรับนายคุณากร ปรีชาชนะชัย ตนไม่ได้ติดใจ เนื่องจากไม่ได้พูดอะไรที่ทำให้พรรคเสียหาย
แต่สำหรับ ส.ส. อีก 2 คน คือ นายมานิตย์ สังข์พุ่ม และ นายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล ต้องการให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนจริยธรรม เนื่องจาก นายครูมานิตย์ ไปพูดกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่า “ผมยกมือให้นายกฯ ล้านเปอร์เซ็น ทั้งยังบอกว่าอภิปรายทำบ้าอะไร” ตรงนี้เป็นประเด็นที่ตนในฐานะรองหัวหน้าพรรคติดใจ
เพราะการยื่นญัตติตตามรัฐธรรมนูญ 152 ตนลงชื่อในลำดับที่ 16 และ ส.ส. อีกสองร้อยกว่าคนก็ลงชื่อในญัตติดังกล่าว แต่นายมานิตย์กลับไปพูดว่า “บ้าหรือเปล่า” ทำให้คนอื่นเสียหาย
“ก็รู้อยู่แล้วว่ามีปมสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่อผิดกฎหมายผิดรัฐธรรมนูญกรณีถวายสัตย์ฯ และส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านก็ยื่นกระทู้ไม่รู้กี่รอบ นายกฯ ก็ไม่มาตอบ เราจึงต้องใช้การยื่นญัตติตาม มาตรา 152” นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับ นายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล ที่กล่าวว่า “ให้นายกฯอยู่ 8 ปี” ทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทย มีมติว่าเราจะเป็นพรรคฝ่ายค้านที่เข้มแข็งและจะล้มรัฐบาลให้ได้เร็วที่สุด ตามช่องทางที่ถูกต้อง ซึ่งตนคิดว่าส่อผิดจริยธรรมอย่างรุนแรง จึงยื่นหนังสือต่อหัวหน้าพรรคให้ตรวจสอบเรื่องข้อบังคับพรรคข้อ 113 และขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามระเบียบพรรคต่อไป
ด้านนายสมพงษ์ กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการตามขั้นตอนของพรรค ส่วนตัวยืนยันว่า มีการกระทบกันบ้าง แต่ในส่วนของการดำเนินานที่ถูกต้อง ควรมีคณะกรรมการขึ้นมาสอบถาม และในฐานะหัวหน้าพรรคต้องรับเรื่องนี้ไปดำเนินการ ย้ำว่าจะให้ความยุติธรรมกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เมื่อถูกถามว่าจะใช้เวลานานเท่าใดในการตรวจสอบ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ไม่เกิน 3 สัปดาห์ แต่เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันพฤหัสบดี ซึ่งพรุ่งนี้คงแยกย้ายกลับต่างจังหวัด สัปดาห์หน้าคงจะมีการตั้งคณะกรรมการ ถ้าผิดก็ให้กรรมการดู เราตัดสินเองไม่ได้ เป็นเรื่องของขั้นตอน อย่าให้ฟันธง เพราะไม่ได้เป็นกรรมการ ทั้งนี้คงต้องดูการกระทำว่าอยู่ในระดับไหน
เมื่อถูกถามอีกว่าเรื่องนี้จะกระทบต่อเสถียรภาพของพรรคเพื่อไทยหรือไม่
นายสมพงษ์ตอบว่า คงไม่กระทบ เราผนึกกำลังกัน เรามีสัดส่วนในการทำงานให้พรรค ส่วน ส.ส. ก็มีเอกสิทธิ์ แต่ควรรับรู้ว่ามีสิทธิ์อย่างไร เกินขอบเขตหรือไม่ คนเป็น ส.ส. ผ่านร้อน ผ่านหนาวมามาก จะเห็นว่าเขาทำงานมาเยอะมาก ในเรื่องของความสามารถเขารับรู้อยู่แล้ว บางทีอาจเผลอ ไปบ้าง คนเราไม่ได้ดี 100% ต้องดูระดับของความตั้งใจของเขา และเชื่อว่าการโหวตในสภา สามารถตรวจสอบได้ ยังไม่เกิดเสียงเทคะแนนเสียง
สำหรับการอภิปรายตามญัตติของพรรคฝ่ายค้าน นายสมพงษ์กล่าวว่า การอภิปรายคงสลับสับเปลี่ยนกัน รอบนี้ก็จะให้บุคคลอื่นที่ยังไม่อภิปรายมีโอกาสเข้ามาอภิปรายด้วย แต่อาจจะใช้เวลา 2-3 วันยังไม่แน่ขึ้นอยู่กับประธานยังไม่ได้กำหนด ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะมาตอบหรือไม่ตอบเป็นที่ตัวบุคคลที่ผ่านมาไม่มาตอบ แต่ท่านก็พูดว่าไม่กลัวสภา “เราได้ทำหน้าที่ของเรา สื่อมวลชน ประชาชนจะเข้าใจเอง ผมคงจะตอบแทนนายกไม่ได้ เราก็ร้องมาหลายครั้งแล้วนะ สื่อช่วยกัน สนับสนุนท่านหน่อยให้ท่านมาพูดจาบ้า”
หลังจบแถลงข่าว นายคมเดชได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ต้องเรียกว่า “ช็อปปิง ส.ส.” เพราะรัฐบาลอ่อนแอ ลงมติแพ้หลายครั้ง ส่วนราคาแล้วแต่เกรดเอ บี ซี ดี คนที่เคยเป็นงูเห่าภาค 1 คงถูกจองตัวต่อไป เป็นเป้าหมายของการช็อป ส.ส.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง