แกนนำผู้จัดชุมนุม ในนามคณะราษฎร อาทิ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง, อานนท์ นำภา, ภาณุพงศ์ จาดนอกหรือ ไมค์, ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ ฟอร์ด, จตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และชลธิชา แจ้งเร็ว แถลงข่าวบริเวณสนามหลวง กรณีความคืบหน้าการจัดกิจกรรมชุมนุม วันที่ 14 ต.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ย้ำข้อเรียกร้อง 3 ประการ คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออกจากนายกรัฐมนตรี 2.เปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจากประชาชน 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
ด้าน อานนท์ ยืนยันว่า วันที่ 14 ต.ค. เวลา 14.00 น. จะเป็นกิจกรรมทวงคืนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และอาจมีการพักค้างคืน แต่ยังไม่กำหนดวันเวลาชัดเจน
พร้อมกันนี้ เนื้อหาที่ปราศัยจะไม่มีการลดเพดานตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ และคาดว่ามวลชนที่มาร่วมจะไม่น้อยกว่าการประท้วงเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ทั้งยังเสริมว่า ตนเองเชื่อว่าจำนวนมวลชนที่มาในวันที่ 14 ต.ค. จะสามารถกดดันให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้องได้ อานนท์ ยังเปรยว่าในการชุมนุมครั้งนี้จะมีเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน
สำหรับประเด็นการเจรจากับภาครัฐ ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยืนยันว่าหากรัฐบาลต้องการเจรจา คณะฯ ยินดีที่จะพูดคุยแน่นอน โดยใช้ยุทธวิธีกินข้าวทีละคำ ตามมติของมวลชนว่าจะรับข้อเสนอได้หรือไม่ ทว่าหากตกลงกันไม่ได้ คณะฯ พร้อมยกระดับการชุมนุม แต่จะอยู่ภายใต้ความสงบ
กรณีที่สภายอมรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งหมดทั้งฉบับ มีการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หากมีมติไม่แตะ หมวด 1 หมวด 2 คณะฯ พร้อมน้อมรับมตินั้น หากเป็นเสียงจากประชาชนโดยรวม
ท้ายที่สุด เมื่อถามว่า หากมีขบวนเสด็จในวันที่ 14 ต.ค. บนถนนราชดำเนิน แกนนำยืนยันว่าจะไม่ขัดขวางขบวนเสด็จ และมั่นใจว่าผู้ชุมนุมมีวุฒิภาวะกันอยู่แล้วที่จะชุมนุมโดยสันติ
ทั้งนี้ แกนนำได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ ใจความว่า ณ สนามราษฎร วันนี้คณะราษฎรได้ฟื้นคืนอีกครั้งเพื่อทวงคืนประชาธิปไตยของปวงชนจากรัฐบาลประยุทธ์ที่ไม่สามารถตอบโจทย์ราษฎร โดยเน้นจุดยืน 3 ข้อเรียกร้องทิ้งท้าย