ไม่พบผลการค้นหา
รอง ผบช.น. เชื่อ น.1 ไม่เอาผิดม็อบขว้างแก้วใส่ ขณะตรวจความเรียบร้อยพื้นที่ชุมนุม ขอทั้ง 2 ฝ่าย เห็นต่างแต่ไม่แตกแยก ยันดำเนินคดีทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายคณะราษฎร ใช้ความรุนแรง โดยการขว้างปาสิ่งของคือแก้วน้ำใส่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในขณะที่ลงพื้นที่เจรจากับผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา จนแก้วน้ำกระเด็นโดนตัว ผบช.น. นั้น ส่วนตัวเชื่อว่า ผบช.น.จะไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะตำรวจยึดคติ "อดทนต่อความเจ็บใจไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก" ในการทำงาน โดยตำรวจจะมีมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเท่าเทียมกันให้กับผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่มอย่างเป็นธรรมแน่นอน

ส่วนกรณีที่เกิดการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย พล.ต.ต.ปิยะ ได้ขอความร่วมมือผู้ชุมนุมว่า ทุกคนสามารถเห็นต่างได้ แต่ขออย่าให้เกิดความแตกแยก

ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมออกมาบอกว่า จะมีการปักหลักค้างคืนในวันนี้ (14 ต.ค.) ยืนยันว่า ไม่สามารถค้างคืนได้เพราะในกฎหมายระบุไว้ ซึ่งหากการชุมนุมสิ้นสุดลงตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานของผู้ที่กระทำผิดสำหรับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

10142020_๒๐๑๐๑๔_9.jpg


กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการเคลื่อนย้ายต้นไม้บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น เบื้องต้น หากจะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษทางกรุงเทพมหานครจะเป็นผู้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดผู้ชุมนุมต่อไป 

ทั้งนี้การชุมนุมดังกล่าวจะมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ขณะนี้ตำรวจอยู่ในระหว่างการสืบสวนหาข้อมูล แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับบุคคลกลุ่มใด 

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงการปล่อยข่าวบิดเบือน ในลักษณะที่มีการแชร์ภาพบุคคลสวมเสื้อสีเหลือง สั่งการตำรวจให้จับกุมแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุม โดยยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะบุคคลที่ปรากฏในภาพเป็นตำรวจ ซึ่งได้รับมอบหมายให้เข้าสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ชุมนุม พร้อมขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการจราจร พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หากมีการเคลื่อนตัวของผู้ชุมนุม ตำรวจจะปิดการจราจรชั่วคราวในระยะทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมผ่านและหากกลุ่มผู้ชุมนุมผ่านไปแล้วก็จะเปิดการจราจรตามปกติ พร้อมให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางการชุมนุมและพื้นที่โดยรอบแล้ว