กว่า 1 ปี ที่ แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ นักร้องหนุ่ม จากเวที THE STAR ออกมา ตั้งค่ายเพลงของตัวเองในนาม โอจีมี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (OGME ENTERTAINMENT ) ปั้นศิลปิน และทำเพลงในสไตล์ที่รัก ซึ่งปัจจุบันมีศิลปินในค่าย ไม่ว่าจะเป็น มาร์ค คนัสนันท์ , นักร้องแร๊พเปอร์ CONFUSE และ ศิลปินหน้าใหม่ "มิค เสฏฐนันท์ พรวรวาณิช" และ "แมค สุภณัฐ พรวรวาณิช” ที่แกงส้ม ได้นำต้นแบบการปั้นศิลปินเกาหลีใต้ มาใช้กับน้องทั้ง 2 คน

แกงส้ม มีประสบการณ์ทำงานที่เกาหลีใต้ และยังเคยไปออดิชั่นกับค่าย YG Entertainment ของประเทศเกาหลีใต้ ผ่านเข้าไปถึงรอบ 30 คนสุดท้าย ได้เผยกับทีมงาน วอยซ์ออนไลน์ ว่าการปั้นศิลปินของเกาหลีใต้ จะมีรูปแบบการฝึกที่ชัดเจน ศิลปินของเกาหลี จะเน้นการหาคาแรคเตอร์ให้กับศิลปินแต่ละคน ในไอดอล 1 วง แต่ละคนจะมีคาแรคเตอร์ไม่เหมือนกัน ซึ่งทีมงานจะเริ่มเฟ้นหาตั้งแต่ออดิชั่น และนำมาพัฒนา โดยการฝึกซ้อม ของศิลปินฝึกหัดจะมีตารางฝึก ตั้งแต่เช้า ถึง ค่ำ มีวันพักผ่อนเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น โดยศิลปินฝึกหัด จะถูกฝึกแบบนี้เป็นปีๆ

“ความกดดัน การเป็น IDOL ของเกาหลี ไม่ได้เริ่มมาจากแค่คุณเข้ามาในค่าย และโดนกดดันนะ ผมว่าด้วยวัฒนธรรมมากกว่า คนเกาหลีค่อนข้างจะจริงจัง” แกงส้ม

คนเกาหลี จะมีความจริงจังอะไรบางอย่าง เวลาเขาทำอะไร ต้องทำให้ได้ มันเลยเกิดวินัยที่ค่อนข้างจะดีมาก ทำให้บางครั้งเวลาทำงานมันเลยกลายเป็นภาวะเครียด ทั้งคนทำงาน ศิลปิน และทีมงาน จนบางครั้งอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดมาจาก รากวัฒนธรรมของเค้า ที่มีการแข่งขันกันสูง บอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป เกิดใหม่ขึ้นมา แทบทุกสัปดาห์ การออกรายการเพลง รายการทีวี เพื่อผลักดันศิลปิน ก็มีมูลค่าที่สูงมาก เมื่อลงทุนไปแล้ว ต้องสำเร็จ มันเลยกลายเป็นความกดดันของทุกฝ่าย

โดยรูปแบบเหล่านี้ แกงส้ม ได้นำมาปรับกับวัฒนธรรมไทย และใช้กับ ศิลปินหน้าใหม่ "มิค เสฏฐนันท์ พรวรวาณิช" และ "แมค สุภณัฐ พรวรวาณิช” ซึ่งเน้นเพิ่มเติมเรื่องของ วินัย การฝึกที่เข้มข้น เหมือนอยู่โรงเรียนประจำ พร้อมปรับทัศนคติเด็กในค่าย ให้ ทำผลงานให้ดีที่สุด มีมาตรฐาน อย่าไปคาดหวังว่าเราต้องดัง มีแฟนคลับมาตาม เพราะวันหนึ่งเราอาจจะไม่มีใครมาตามเลยก็ได้ แต่ถ้าคุณภาพงานของเราดี ไม่มีตก ต่อให้เราไม่ดังเท่าเดิม แต่ก็ยังมีคนเห็นว่าเรายังเก่งอยู่ และมีคนจ้างงานเรา อันนี้คือสิ่งสำคัญมาก

ซึ่งมุมมองการออดิชั่นศิลปินของ แกงส้ม จะไม่ได้มอง ที่ความสวย ความหล่อ แต่รวมไปถึงทัศนคติ เพราะถ้าไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติได้ มันจะยากที่จะยอมรับกฏต่างๆ เราไม่ได้เปลี่ยนตัวตนเขา แต่ทำให้เขามีวินัยมากขึ้น ซึ่งเด็กไทยของเรามีความสามารถ มีของดี เพราะไม่เช่นนั้น ค่ายต่างๆจากเกาหลี คงไม่อยากมา ออดิชั่นเด็กไทยไปเป็นศิลปิน

แกงส้ม มองว่า วงการเพลงไทย กับเกาหลี แตกต่างกันมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเทียบเท่าไม่ได้ มูลค่าผลตอบแทนวงการเพลงในเกาหลี มีรัฐบาลคอยสนับสนุน วงไหนดัง ดังไปทั่วประเทศ และแฟนคลับที่นั่น ก็พร้อมสนับสนุนสินค้าทุกรูปแบบที่เป็นลิขสิทธิ์ ของศิลปินที่ชื่นชอบ ขณะที่วงการเพลงไทย มูลค่าทางตลาดไม่ได้เยอะเท่าเกาหลี แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลง สร้างมูลค่า คุณภาพ ให้ตัวศิลปิน ให้มากพอ ที่แฟนคลับพร้อมจะสนับสนุนงานลิขสิทธิ์ มันอาจจะต้องใช้เวลา ซึ่งคุณภาพของเด็กรุ่นใหม่สามารถทำได้