ไม่พบผลการค้นหา
คณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจฯ กำหนดให้มีตำแหน่งหัวหน้าพนักงานสอบสวนในสถานีตำรวจ มีอำนาจสั่งคดีแทนผู้กำกับการ ส่วนแพทย์และงานวิชาการ ไม่มียศ

นายคำนูณ สิทธิสมาน ในฐานะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยความคืบหน้าการประชุมของคณะกรรมการที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน โดยระบุว่า รายละเอียดของโครงสร้าง 4 แท่ง โดยเฉพาะแท่งสืบสวนสอบสวน เห็นควรให้อำนาจสั่งคดีในแต่ละสถานีตำรวจ หรือนัยหนึ่งอำนาจของ 'พนักงานสอบสวนผู้เป็นหัวหน้าในท้องที่...' ตามนัยแห่งมาตรา 18 วรรคสี่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนระดับหัวหน้าในสถานีนั้น ไม่ใช่อำนาจของผู้กำกับการผู้เป็นหัวหน้าในสถานีตำรวจเหมือนในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 กำหนดให้ตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจเป็นพนักงานสอบสวนในระดับที่เหนือกว่าพนักงานสอบสวนคนอื่นในสถานีไปด้วย ทำให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนมีอำนาจสั่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไปโดยอัตโนมัติ ทั้งที่อาจจะไม่ได้เติบโตและมีประสบการณ์มาในแท่งสอบสวนโดยตลอดตั้งแต่ต้น

ดังนั้น เพื่อเป็นหลักประกันในความเป็นอิสระและเป็นมืออาชีพในงานด้านคดีของพนักงานสอบสวน เห็นควรกำหนดให้ในแต่ละสถานีนอกจากจะมีตำแหน่งผู้กำกับหัวหน้าสถานี 1 คน แล้วจะให้มีตำแหน่งหัวหน้าพนักงานสอบสวน 1 คนด้วย โดยจะกำหนดให้มี 'กลไกภายใน' ให้พนักงานสอบสวนในระดับเหนือขึ้นไปจากสถานีตำรวจตรวจสอบถ่วงดุลกันเอง ส่วน 'กลไกภายนอก' อาทิ อัยการ จะเข้ามามีส่วนร่วมแค่ไหน อย่างไร เมื่อใด จะได้พิจารณากันในโอกาสต่อไป

ประเด็นอื่นนอกเหนือจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นควรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางหน่วยที่อยู่ในแท่งที่ 3 งานเทคนิคและวิชาการ อาทิ แพทย์ วิทยาศาสตร์ การศึกษา ฯลฯ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประเภทไม่มียศ โดยเริ่มต้นเฉพาะจากเจ้าหน้าที่ตำรวจบรรจุใหม่หลัง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ใช้บังคับ ซึ่งในประเด็นนี้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 บัญญัติให้มีนายตำรวจประเภทไม่มียศได้อยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังไม่เคยกำหนดให้มีมาก่อน