ไม่พบผลการค้นหา
รมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่ง สศก.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจผลผลิตปาล์มน้ำมันที่สำคัญ - เตรียมมาตรการแก้ปมเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันช่วงผลผลิตชุก

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ สศก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น เกษตรกร สมาคมโรงสกัดน้ำมันปาล์ม และGISTDA ลงพื้นที่สำรวจผลผลิตในแหล่งผลิตปาล์มน้ำมันที่สำคัญ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ และนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ย.นี้ เพื่อติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงของการผลิตที่ชัดเจนและได้ข้อมูลที่เป็นเอกภาพ เพื่อส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลบริหารจัดการปาล์มน้ำมันให้เกิดเสถียรภาพในเรื่องราคา เนื่องจากปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันจะมีเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือน ธ.ค.60-ม.ค.61

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้มีมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน ประกอบด้วย มาตรการระยะสั้นที่มอบหมายให้กระทรวงพลังงานออกประกาศปรับสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B7 ซึ่งจะมีการใช้น้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นประมาณเดือนละ 12,000 ตัน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.60 และให้กรมการค้าภายในขอความร่วมมือกรมธุรกิจพลังงานให้ประสานผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ปรับสำรองไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งให้สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มและสมาคมไบโอดีเซล รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 22 บาท รวมทั้งห้างค้าส่ง-ปลีก สมัยใหม่ (Modern Trade) งดจัดรายการส่งเสริมการขายน้ำมันพืชปาล์ม

ส่วนมาตรการระยะยาวให้ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบปี 2560–2579 ซึ่งมติ ครม.เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.59 เห็นชอบยุทธศาสตร์ดังกล่าวมีเป้าหมายที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1) การเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมันต่อไร่และการลดต้นทุนการผลิต 2) การส่งเสริมการทำปาล์มคุณภาพเพื่อเพิ่มอัตราการสกัดน้ำมันจากร้อยละ 17 ในปี 2559 เป็นร้อยละ 23 ในปี 2579 และ 3) การเพิ่มช่องทางการใช้น้ำมันปาล์มให้เพิ่มมากขึ้น เช่น การเพิ่มสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลเป็น B10 การพัฒนาอุตสาหกรรมโอเลโอเคมีคอล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เป็นต้น

ขณะที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายยกระดับคุณภาพกระดาษ A4 ให้มีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกษตรกรทั่วไปมีต้นทุนการผลิตลดลง ผลผลิตและมูลค่าต่อหน่วยเพิ่มขึ้น ผลผลิตได้มาตรฐานมีตลาดรองรับสินค้าเกษตรที่แน่นอน โดยการส่งเสริมและให้ความรู้เรื่องการผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ ตลอดจนเชื่อมโยงการผลิต การตลาด ตลอดห่วงโซ่อุปทาน และสร้างเครือข่ายกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตปาล์มน้ำมันแปลงใหญ่ ผู้ตัดปาล์ม ลานเท กับโรงสกัดน้ำมันปาล์ม ที่จะร่วมกันยกระดับคุณภาพเปอร์เซ็นต์น้ำมันเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ได้มาตรฐาน เพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมัน โดยประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเห็นความสำคัญของการตัดปาล์มสุก เพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ซึ่งเปอร์เซ็นต์น้ำมันทุกๆ 1 เปอร์เซ็นต์ เกษตรกรจะได้รับราคาเพิ่มขึ้น 0.30 บาท/กิโลกรัม โดยปัจจุบันเกษตรกรที่ตัดปาล์มคุณภาพ (ปาล์มสุก) ได้รับราคาอยู่ระหว่าง 4.20-4.50 บาท/กิโลกรัม ซึ่งหากเกษตรกรชาวสวนปาล์มให้ความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะส่งผลโดยตรงต่อราคาผลปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ในราคาที่สูงขึ้น และนำไปสู่การผลิตปาล์มน้ำมันที่ได้มาตรฐานในระดับต่างๆ