สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าไทยรับขยะอิเล็กทรอนิกส์จากทั่วโลก จนกลายเป็นบ่อทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์แห่งใหม่ของโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลจีนปราบปรามการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าไปทิ้งในจีน
ตำรวจที่ท่าเรือแหลมฉบังเปิดเผยว่าเพิ่งมีตู้คอนเทนเนอร์บรรจุขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด 7 ตู้ และแต่ละตู้มีขยะอิเล็กทรอนิกส์จำพวกเกมคอนโซล บอร์ดคอมพิวเตอร์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ชำรุดน้ำหนัก 22 ตัน ซึ่งขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือ อี-เวสต์ เหล่านี้มาจากฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และขยะหลายตู้ถูกทำเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย
พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า นี่แสดงให้เห็นว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์จากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาในไทย และตำรวจได้ตั้งข้อหานำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตกับบริษัทรีไซเคิลและจัดการขยะ 3 แห่งในไทยแล้ว หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริงก็อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี
ขยะอิเล็กทรอนิกส์คือขยะที่มาจากอุปกรณ์ที่มีสายไฟหรือแบตเตอรี ขยะเหล่านี้เป็นแหล่งรวมโลหะที่มีค่า เช่น ทองคำ เงิน ทองแดง รวมถึงสารอันตรายอย่างตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ส่งผลให้นักสิ่งแวดล้อมทั่วโลกต่อต้านบ่อขยะอิเล็กทรอนิกส์
จากการประเมินของสื่อทางการของจีน ขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกในปี 2016 มีประมาณ 500 ล้านตัน และขยะมากกว่าร้อยละ 70 ถูกส่งไปทิ้งในจีน แต่เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ทางการจีนได้แจ้งกับองค์การการค้าโลก (WTO) ว่าจีนสั่งแบนการนำเข้าชยะอิเล็กทรอนิกส์ 24 ชนิดจากต่างชาติ ส่งผลให้ประเทศเพื่อนบ้านต่างกังวลว่าขยะเหล่านี้จะถูกส่งไปยังประเทศของตนเอง และคำสั่งแบนของจีนทำให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์ล้นเอเชียและยุโรป เนื่องจากบริษัทส่งออกขยะไม่สามารถหาประเทศที่จะซ้อขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้
เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะเวศ (EARTH) กล่าวว่า ไทยได้กลายเป็นหนึ่งในบ่อขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะหลังจากที่จีนแบนการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น รัฐบาลควรต้องออกกฎหมายใหม่หรือบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันการนำเข้าขยะอย่างผิดกฎหมาย
แม้ไทยจะลงนามในอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายและการกำจัดของเสียอันตรายข้ามแดน ปี 1997 แต่เพ็ญโฉมกล่าวว่าอนุสัญญาบาเซลยังมีข้อจำกัดหลายอย่างสำหรับการป้องกันการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ และแม้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเพิ่งจะประกาศเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่าจะจัดการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ชัดเจนออกมา