จากเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารของการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 679 แบบ Boeing 747-400 ทำการบินเส้นทางกวางโจว - กรุงเทพ มีผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งสิ้น 116 คน เกิดเหตุอากาศยานออกนอกทางวิ่งฝั่งตะวันตก (Runway19R) ทำให้ล้อเครื่องบินด้านซ้ายติดและจมลงไปกับพื้นดิน ทำให้ท่าอากาศยานฯ ต้องปิดทางวิ่งฝั่งตะวันตกชั่วคราว ทำให้เหลือทางวิ่งฝั่งตะวันออกเพียงทางวิ่งเดียวสำหรับการใช้งาน
ในเวลาต่อมาเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.61) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่าย ทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมมือกันแก้ไขเหตุการณ์อากาศยานของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จนสามารถเคลื่อนย้ายอากาศยานออกจากจุดเกิดเหตุได้สำเร็จ โดยใช้เวลาในการเคลื่อนย้ายเพียง 4 ชั่วโมง แล้วเสร็จเวลาประมาณ 14.30 น.ซึ่ง���ร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้จากเดิม เวลา 16.00 น.
นายอาคม กล่าวว่า จากนี้ไป สำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน จะเร่งสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต่อไป รวมทั้งเน้นย้ำการดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินสูงสุดเป็นอันดับแรก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารและประชาชน พร้อมเพิ่มความเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยในระบบการคมนาคม ภายใต้นโยบาย One Transport For All
ด้าน นายสมนึก รงค์ทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุดังกล่าวส่งผลกระทบให้เกิดความล่าช้าเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก ณ สนามบินสุวรรณภูมิ รวมกว่า 448 เที่ยวบิน ซึ่ง บวท. ได้บริหารจัดการจราจรทางอากาศให้เกิดผลกระทบกับเที่ยวบินน้อยที่สุด และปลอดภัยที่สุด
สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบินประกอบไปด้วย 1. อากาศยานขาเข้าบินวนรอภาคอากาศ จำนวน 179 เที่ยวบิน 2. อากาศยานเปลี่ยนเส้นทางไปลงสนามบินสำรอง จำนวน 5 เที่ยวบิน 3. อากาศยานขาออกล่าช้าภาคพื้น จอดรอบนทางขับและจอดรอในหลุมจอด จำนวน 264 เที่ยวบิน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :