ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ห่วงประชาชนขาดสภาพคล่องช่วงใกล้เปิดเทอม แนะรัฐมีแหล่งทุนเป็นทางเลือกหลากหลาย ไม่ต้องกู้นอกระบบ และเน้นสร้างวินัยทางการเงิน เตือนอย่านำความเดือดร้อนประชาชนเชื่อมโยงการเมือง

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลห่วงใยและมีทางเลือกให้ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่มีปัญหาสภาพคล่องช่วงใกล้เปิดเทอม ไม่ต้องไปใช้บริการสินเชื่อนอกระบบ ได้แก่ โครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินของ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน รายละไม่เกิน 50,000 บาท, โครงการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) รายละไม่เกิน 50,000 บาท, และยังให้สถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศเตรียมเงินให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน และปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดภาระผู้ปกครอง ในระหว่างวันที่ 1 เม.ย.– 31 พ.ค. 61 โดยหากเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท จะคิดดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.25 ต่อเดือน ส่วนเงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ต้องการให้นำความเดือดร้อนของประชาชนไปเชื่อมโยงกับประเด็นการเมือง เช่น ข่าวที่เกษตรกรนำหัวรถไถไปจำนำที่โรงรับจำนำของเทศบาลเมืองชุมแสง จ.นครสวรรค์ และมีคนฉวยโอกาสนำไปอ้างว่า รัฐบาลบริหารงานไม่ดีจึงทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ทอง นาก เพชร และเครื่องรูปพรรณ เงินรูปพรรณ นาฬิกาข้อมือ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ เป็นทรัพย์สินที่มีการนำไปจำนำมากที่สุดตามลำดับ ส่วนเครื่องมืออุปกรณ์ทางการเกษตรมีจำนวนน้อยที่สุด และมีปริมาณการจำนำใกล้เคียงกับทุกปี อีกทั้งรัฐบาลชุดนี้ได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรนำอุปกรณ์ทางการเกษตรไปจำนำได้ เพิ่มเติมจากทรัพย์สินประเภทอื่น อย่างไรก็ตาม นายกฯ อยากให้คนไทยทุกคนสร้างวินัยการออมเพื่ออนาคตในระยะยาวด้วย