"ประวัติศาสตร์บทใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว จากจุดเริ่มต้นแห่งประวัติศาสตร์ คือยุคสมัยแห่งสันติภาพ"

หลังจากที่ผู้นำทั้งสองจับมือกันที่เส้นขนานที่ 38 องศาเหนือ ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนในเขตปลอดทหาร (DMZ) สื่อต่างประเทศได้รายงานบทสนทนาระหว่าง ปธน.มุนแจอินและผู้นำคิมจองอึนอย่างละเอียด

คิมจองอึน：ผมยินดีที่ได้พบคุณ ยินดีอย่างยิ่ง

มุนแจอิน：การเดินทางยุ่งยากไหม

คิมจองอึน：ไม่เลย

มุนแจอิน：ยินดีที่ได้พบคุณเช่นกัน

คิมจองอึน：ผมตื่นเต้นมากที่เราได้พบกันในสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ และตื้นตันมากที่คุณมารับผมที่เส้นแบ่งเขตแดนพันมุนจอม 

มุนแจอิน：การตัดสินใจที่กล้าหาญของคุณทำให้เรามาไกลถึงจุดนี้ได้

คิมจองอึน：ไม่ ไม่ ไม่เลย

มุนแจอิน: เราได้สร้างช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ร่วมกันแล้ว

คิมจองอึน：ผมยินดีที่ได้พบคุณ

มุนแจอิน: ช่วยมายืนฝั่งนี้ได้ไหม ตอนนี้คุณมาฝั่งใต้แล้ว เมื่อไหร่ผมจะได้ไปฝั่งเหนือบ้าง

คิมจองอึน: เวลานี้น่าจะเหมาะที่สุดแล้วที่คุณจะข้ามไปฝั่งเกาหลีเหนือ

หลังจากนั้น ปธน.มุนแจอินและผู้นำคิมจองอึนได้เดินทางไปยังห้องประชุมสันติภาพในเขตพันมุนจอมเพื่อเริ่มการเจรจาสุดยอดผู้นำเกาหลี ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุม คิมจองอึนเขียนในสมุดเยี่ยมโดยระบุว่า "ประวัติศาสตร์บทใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว จากจุดเริ่มต้นแห่งประวัติศาสตร์ คือยุคสมัยแห่งสันติภาพ"

ขณะเดียวกัน คิมโยจอง น้องสาวของคิมจองอึน เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการประชุมระหว่างผู้นำเกาหลีทั้งสองประเทศด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คิมโยจองเดินทางเยือนเกาหลีใต้มาแล้วครั้งหนึ่ง

สื่อต่างประเทศจำนวนมากรายงานว่าการพบกันระหว่างมุนแจอินและคิมจองอึนเป็นห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ แต่สื่อของเกาหลีเลือกรายงานโดยใช้คำที่แตกต่างออกไป โดยระบุว่าการที่ผู้นำเกาหลีทั้งสองชาติได้พบกัน ถือเป็นการก่อร่างสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกัน หรือ 'History in the Making'

"ผมหวังว่าเราจะสามารถพูดคุยประเด็นที่ยังคั่งค้างกันได้อย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ... แทนที่จะกลับไปเริ่มต้นใหม่หรือกระทบข้อตกลงที่ดำเนินการไปแล้ว" คิมจองอึนกล่าวต่อที่ประชุม

ขณะที่ทางเกาหลีใต้ประธานาธิบดีมุนแจอิน กล่าวว่า ทั่วทั้งโลกกำลังจับตามองการเจรจาที่พันมุนจอม

"วินาทีที่คิมข้ามเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ พันมุนจอมได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ไม่ใช่สัญลักษณ์ของการแบ่งเขตแดนอีกต่อไป...ประชาชนชาวเกาหลีใต้และผู้คนทั่วโลกมีความคาดหวังสูงในวันนี้และผมเคารพการตัดสินใจของคิมด้วยเกียรติของผมที่ทำให้เกิดสถานการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้น"

อย่างไรก็ตาม ก่อนจบการประชุมในช่วงเช้า มุนแจอินได้เชิญคิมจองอึนไปเยือนทำเนียบประธานาธิบดีที่กรุงโซล ซึ่งทางฝ่ายเกาหลีเหนือกล่าวว่าจะไปเยือนแน่นอน ถ้าได้รับคำเชิญ

ขณะที่การประชุมในช่วงบ่ายทางการเกาหลีใต้ได้ออกมาแถลงว่า "ทางเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้มีการเจรจาเรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์ การสร้างสันติภาพถาวรในคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ระหว่างทั้งสองเกาหลี" ยุนยองชาน โฆษกส่วนตัวของประธานาธิบดีมุนแจอินกล่าว

ที่มา CNN

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ผู้นำเกาหลีเหนือ-ใต้ ร่วมโต๊ะเจรจาครั้งประวัติศาสตร์