การเมือง
'ประยุทธ์' พอใจผลงาน 4 ปี คสช. ลั่นไม่เลือกตั้งปี 61 ย้ำบังคับใช้กฎหมายคุมม็อบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า วันนี้ (22 พ.ค.) ส่วนตัวอารมณ์ดี จะไปซีเรียสอะไร ซึ่งวันนี้เป็นวันครบรอบ 22 พ.ค. เป็นสิ่งดีที่จะได้ทบทวนว่าดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 ซึ่งได้ดำเนินการอะไรไปเป็นจำนวนมาก จึงเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้เป็นกำลังใจให้พวกเรากันเองดีกว่า เพื่อทำงานต่อไป ไปสู่รัฐบาลหน้า
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ส่วนตัวพอใจผลงานของตนเองในปีที่ 4 ใครจะไม่พอใจก็ไม่ทราบ แต่ตนเองพอใจที่ได้เริ่มต้นไว้ให้ ในเรื่องของการปฏิรูป ซึ่งได้ทำไปหลายอย่างด้วยกัน ทั้งเรื่องของกฎหมาย เพื่อจะทำให้เกิดการปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ร.บ.ฉบับต่างๆ ก็ออกมาแล้ว จึงต้องดูกันต่อไปว่า ระยะเวลาต่อจากนี้ไป หลังที่ได้ทำปฏิรูปขั้นต้นไปแล้ว โครงสร้างต่างๆ กฎหมาย วิธีการ งบประมาณ แผนงานต่างๆ ถือเป็นการสร้างสภาวะแวดล้อมต่างๆให้เกิดการปฏิรูป หลายอย่างเสร็จไปแล้วแต่หลายอย่างก็ยังไม่เสร็จ จึงต้องมาดูว่าวันข้างหน้าจะทำอย่างไรกันต่อไป เพราะมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการปฏิรูป ซึ่งส่วนตัวไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสองคณะกรรมการ แต่ยอมรับว่ามีความกังวลในเรื่องเหล่านี้ แต่จำเป็นจะต้องมีกรอบไม่เช่นนั้นการใช้จ่ายงบประมาณก็จะไม่คุ้มค่าไม่ต่อเนื่องและเชื่อมโยง
เมินเลือกตั้งเร็วกว่าปี 62 งัดกฎหมายคุมเข้ม หวั่นประเทศเสียหาย
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งภายในปีนี้ว่า อยากเรียกร้องก็เรียกร้องไป เพราะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่กฎหมายมีอยู่ เพราะฉะนั้นจะเรียกร้องตรงไหน กฎหมายชุมนุมว่าอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม ส่วนตัวยืนยันมาตลอดว่าการเลือกตั้งเป็นไปตามขั้นตอนว่าจะเลือกตั้งต้นปี 2562 ไม่มีเร็วกว่านั้น ซึ่งตนก็ยืนยันในหลักการของตน เพราะที่เกิดความล่าช้า 90 วัน เป็นเพราะความพร้อมของกฎหมาย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุถึงความจำเป็นของการใช้กฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อยด้วยว่า ไม่ใช่ไปบังคับใช้กฎหมายกับคนที่เห็นต่าง เห็นต่างได้แต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย ดังนั้น การดำเนินคดีต่างๆต้องจริงจังมากขึ้น ไม่อย่างนั้นรัฐบาลจะเสียหาย ตนให้ประเทศเสียหายไม่ได้ อะไรที่เกิดขึ้นวันนี้ ก็คืออนาคตของประเทศในวันข้างหน้าทั้งสิ้น
ลั่นทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมาย ไม่ต้องการทะเลาะกันอีก
ส่วนกรณีที่แจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำพรรคเพื่อไทย 8 คน ในการแถลงข่าวครบรอบ 4 ปี คสช. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย หากทำผิดก็ต้องว่าด้วยเรื่องกฎหมาย ส่วนเรื่องปลดล็อกพรรคการเมืองนั้น ถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน ขออย่าเอาสองเรื่องมาพันกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวาย เป็นการขยายความขัดแย้งไปเรื่อยๆ และไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งสิ้น ดังนั้น เรื่องของการประท้วงที่มีอยู่ขณะนี้ รัฐบาลก็พยายามที่จะผ่อนผันให้เท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องการปิดกั้น
"บุคคลเหล่านี้ได้แสดงความเห็นมาหลายครั้งแล้ว รัฐบาลจึงได้รับมาพิจารณาดำเนินการในสิ่งที่ทำได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังออกมาพูด แถลงข่าวอยู่เรื่อยๆ แต่อย่าลืมว่ามีกฎหมายอยู่ทุกฉบับ และอย่างวันนี้ศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินออกมาแล้ว ว่าเป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งผมก็ไม่สามารถไปห้ามได้ แล้วจะให้ผมทำอย่างไร ถ้าไม่ปฏิบัติก็จะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จะคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพอย่างเดียวก็ได้ แล้ววันหน้าเราจะมาทะเลาะกันเรื่องรัฐธรรมนูญต่อไปอีกหรือ เพราะถือเป็นคนละเรื่องกัน ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ใครมาเดินก็ไม่ได้ ถ้าผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็แล้วแต่ จะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนกับรัฐบาลก็แล้วแต่ ผิดกฎหมายทั้งหมด ผมไม่ต้องการให้กลับไปอยู่ในจุดเดิม" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
'ประวิตร' ย้ำจับ 5 แกนนำคนอยากเลือกตั้ง ปูดมือที่สามดักยิง
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุว่า แกนนำติดต่อเข้ามาขออ่านคำแถลงการณ์ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วจะยุติการชุมนุมทันที และย้ำว่าจะไม่ให้มีการชุมนุมยืดเยื้อเพราะผิดกฎหมาย หากผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายก็พร้อมจับกุมแกนนำทันที อีกทั้ง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พยายามทำตามกฎหมาย และสถานการณ์สงบดีอยู่แล้ว และการเลือกตั้งจะมีในเดือน ก.พ. 2562 ซึ่งกำหนดชัดเจนอยู่แล้ว การที่เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้วันนี้ ไม่ใช่จุดแข็งของ คสช. แต่เป็นการดูแลตามกฎหมาย ซึ่งการชุมนุมวันนี้ไม่พบสิ่งปกติ
ส่วนการแจ้งจับ 5 แกนนำเป็นไปตามกฎหมาย และที่ไม่เกิดเหตุการณ์บานปลายเพราะผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไม่ได้ แต่หากเคลื่อน อาจจะมีเหตุดักยิงกลางทาง เพราะมีการจ้างบุคคลที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ซึ่งรู้ตัวแล้วแต่ไม่บอกว่าใครจ้าง
การันตี 4 ปี คสช. เศรษฐกิจดีขึ้น
ส่วนก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงวันครบรอบ 4 ปี คสช. ว่า คสช.พยายามทำงานทุกอย่างประชาชนก็เห็น ผู้สื่อข่าวก็เห็น และนายกรัฐมนตรีก็ทำงานหนักดูแลทั้ง 21 กระทรวง สั่งการอยู่คนเดียว เศรษฐกิจก็ดีขึ้นตั้งเยอะ ส่วน 4 ปีถือว่านานหรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า นานหรือไม่นานไม่เกี่ยวกัน แต่ขี้นอยู่กับว่าได้มีการปฏิรูปอะไรไปบ้าง รัฐบาลได้ทำทุกอย่าง และคสช.ทุกคนทำงาน ไม่มีใครเกียร์ว่าง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
