ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี สัญญาจะเร่งแก้ราคายางพารา รองนายกฯ ดึง 5 หน่วยงาน ยกเครื่องแก้ปัญหาภาคเกษตรทั้งระบบ เชื่อ 3 เดือน จะเห็นการเปลี่ยนแปลง เตรียมมอบของขวัญปีใหม่เกษตรกร ด้วยการรับซื้อยางพาราราคาไม่ต่ำกว่าต้นทุน

ระหว่างลงพื้นที่มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย ที่จังหวัดตรัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ชี้แจงการแก้ปัญหาราคายางพารา สัญญาว่า จะเร่งเพิ่มกำลังการใช้งานยางพาราในประเทศ เพิ่มสัดส่วนเป็นล้านตันเพื่อให้ราคาเพิ่มขึ้น แต่ยอมรับว่า ทำได้ยากเพราะมีการปลูกยางพาราจำนวนมาก ดังนั้นขอประชาชนปลูกพืชทดแทน และลดพื้นที่ปลูกยางพาราลง

ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ยอมรับรัฐบาลเหลือเวลา 1 ปี จากนี้ต้องทำงานแบบบูรณาการ เพื่แก้ปัญหาเกษตรให้ครอบคลุมทุกด้าน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 

ส่วนปัญหายางพารา ระยะสั้น มอบกระทรวงเกษตรฯ ผลักดันราคาให้สูงกว่าต้นทุน ส่วนระยะยาว ต้องหาวิธีเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากยาง 

มาตรการเร่งด่วน 3 แนวทางแก้ปัญหายางพารา คือ ขอความร่วมมือเอกชนรับซื้อยางจากสต๊อกเพิ่มขึ้น เพื่อดันราคาให้สูงกว่าต้นทุนซึ่งอยู่ที่ไร่ละ 51.28 บาท ให้ส่วนราชการ ซื้อยางเพิ่ม 5-8 หมื่นตัน จากเดิม 3 หมื่นตัน โดยทำแผนให้เสร็จใน 2 สัปดาห์ และให้การยางแห่งประเทศไทย เตรียมงบซื้อยางเพิ่มเติม จากเงินทุนหมุนเวียนปัจจุบัน 12,000 ล้านบาท 

ส่วนปัญหาสต็อกปาล์มน้ำมัน 5.4 แสนตัน สูงสุดในรอบหลายปี คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้เห็นชอบให้ผู้ส่งออกรับซื้อปาล์ม 1 แสนตัน กระทรวงพลังงาน 1 แสนตัน เพื่อใช้ผลิตไบโอดีเซล และให้ อคส. ปตท. เตรียมรับซื้อเพิ่มเติม เพื่อระบายสต็อกให้น้อยลง

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จะหารือกับผู้ประกอบการไบโอดีเซล หาแนวทางขยายการเก็บสต็อกปาล์มน้ำมันบริสุทธิ์ หรือ B100 (บีร้อย) มากขึ้น ส่วนข้อเสนอให้นำ B100 ไปใช้ในโรงไฟฟ้ากระบี่ จะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะช่วยเกษตรกรได้ 35 ล้านบาท แต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 400 ล้านบาท และค่าไฟโดยรวมจะแพงขึ้น