วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2568) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าประชุม ครม. ถึงการลงพื้นที่ชายแดนของ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ทางจีนต้องการอย่างไร ว่า กระทรวงความมั่นคงของจีนทำหนังสือมาถึงสถานทูตจีน และกระทรวงยุติธรรม มาเยี่ยมคารวะ มาพูดถึงความร่วมมือเรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การฉ้อโกงออนไลน์ และการพนัน มีกำหนดการจะพบทางตำรวจ ปปง. ปปส. และอีกหลายหน่วย แต่กำหนดการแยกจากกัน ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมเป็นวาระเร่งด่วนที่จะต้องแก้ปัญหา ทั้งเรื่องยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ ยุทธวิธีที่ประสบความสำเร็จเราอาจจะต้องยกระดับทวิภาคี เป็นอาเซียนบวกจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ในการแก้ปัญหา นายหลิว ได้ให้ข้อมูลที่เป็นวีดีโอการกระทำผิดของประเทศเพื่อนบ้าน ที่เป็นศูนย์กลางของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ส่งเรื่องให้กับดีเอสไอและ ปปส.ไปขยายผล 

ซึ่งมาตรการทางกฎหมายที่ไทยมี พ.ร.บ.ความร่วมมือการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจะต้องดึงอัยการสูงสุดเข้ามาร่วม เพราะเหตุเกิดนอกราชอาณาจักร ไม่ว่าต้นทาง ปลายทาง หรือทางผ่าน สามารถดำเนินคดีได้ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดกับจีน และฮ่องกง ซึ่งไทยเป็นทางผ่าน เราได้ประสานขอความช่วยเหลือทีมฮ่องกง ที่ติดกับแม่สอด สามารถช่วยมาบางส่วน จากการสอบถามพบว่าเป็นคนชาติเดียวกันหลอกลวงกันเอง โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ไม่มีคนไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ ? พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยว่า 'มีการพูดไทย แต่เชื่อว่าเป็นคนจีนที่ฝึกพูดไทย เพราะสำเนียงจีน' แล้ววันนี้ ตม. ส่งกลับอีกหนึ่งคน ส่วนในทางช่วยเหลือที่จะเข้ามา ประเทศเพื่อนบ้านมีศักยภาพมากกว่าเรา ทั้งจากสีหนุวิลล์หรือชเวโก๊กโก่ เพราะคนของประเทศเขาถูกหลอกลวงไปทำผิด

หลังจากลงพื้นที่มีการสั่งย้ายตำรวจ มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธพร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ต้องไปถามตำรวจ กระทรวงยุติธรรมกับตำรวจจะแยกกัน เราเพียงแค่ประสานในเรื่องการข่าวและในทางปฏิบัติต้อง ขอขอบคุณกองทัพบก ตำรวจ ที่ประสานแหล่งข่าวขอความช่วยเหลือในต่างประเทศ 

สำหรับกระแสข่าวว่า ไทยไม่รู้ทำให้จีนต้องมาจัดการเองนั้น ส่วนตัวมองว่า เขาไม่มาตำหนิแต่มาขอบคุณ มาชื่นชม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ที่ดีกับรัฐบาล ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันอย่างดี โดยเฉพาะการสกัดกั้นช่วยเหลือคนจากจีน เพราะการหลอกลวงไม่ได้เกิดจากคนไทย แต่เป็นคนชาติเดียวหลอกลวงกัน

ส่วนที่มีการตำหนิว่าเจ้าหน้าที่ไทยไม่ดูแลคนของประเทศตัวเองนั้น ไม่จริง เขาชื่นชม อยากจะยกระดับให้ดีขึ้น เขายังไปพูดว่าเราต้องทำให้อาเซียนเข้มแข็ง แม้จีนไม่ได้อยู่ในกลุ่มอาเซียนแต่ก็อยู่ในอาเซียน+3 สิ่งที่สำคัญที่สุดเราต้องยกระดับความปลอดภัยในอาเซียน “วันนี้การหลอกลวงเป็นยุคดิจิตอล จะต้องใช้ภาษาเดียวกัน คนที่จะหลอกคนจีนก็ต้องใช้ภาษาจีน ต้องเป็นคนจีนด้วยกัน คนจะหลอกลวงคนญี่ปุ่นหรือคนเกาหลีใต้ก็ต้องใช้ภาษานั้น เอาคนไทยไปก็ ต้องใช้ภาษาไทย สิ่งสำคัญคือต้องยกระดับความปลอดภัยของอาเซียน และทุกประเทศจะต้องให้ความสำคัญกับการหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ” พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว