ไม่พบผลการค้นหา
ไต้หวันถือเป็นความหวังว่าจะเป็นแห่งแรกในเอเชียที่เปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกันจดทะเบียนสมรสกันได้เหมือนคู่ชายหญิง หลังศาลตัดสินในสภาแก้ไขกฎหมายสมรส แต่กฎหมายนี้ก็ยังเสี่ยงจะถูกฝ่ายอนุรักษ์นิยมขัดขวางในการลงประชามติวันเสาร์นี้ (24 พ.ย.)

ไต้หวันกำลังจะจัดการลงประชามติในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เพื่อถามความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสิทธิของกลุ่มหลากหลายทางเพศ ซึ่งทำให้กลุ่ม LGBTIQ ในไต้หวันกังวลว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะขัดขวางไม่ให้ผ่านกฎหมายอนุญาตแต่งงานเพศเดียวกัน

วิกตอเรีย ซู ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ในขณะที่คู่ขายหญิงสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้ภายในเวลา 30 นาที คู่รักเพศเดียวกันต้องต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิ์นั้นเป็นเวลาหลายสิบปี ตั้งแต่รวบรวมข้อมูล ยื่นฟ้องคดีต่อศาล และต้องโต้เถียงเกี่ยวกับสิทธิเท่าเทียมนับครั้งไม่ถ้วน จนศาลตัดสินให้คู่รักเพศเดียวแต่งงานกันได้ และเธอมีแผนจะแต่งงานกับคนรักของเธอในเดือนพ.ค.ปีหน้า

อย่างไรก็ตาม แผนการแต่งงานของเธอและกลุ่มหลากหลายทางเพศอีกหลายคนในไต้หวันอาจล่มลง หากฝ่ายอนุรักษ์นิยมในประเทศชนะการลงประชามติครั้งนี้ที่ถามความเห็นประชาชนตั้งแต่เรื่องการสอนเรื่องความหลากหลายทางเพศในสถานศึกษา และข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับการอนุญาตการจดทะเบียนสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน

โพลหลายสำนักที่ถามความเห็นของชาวไต้หวันพบว่า คนส่วนใหญ่ยังต่อต้านการแต่งงานเพศเดียวกัน โดยผลำรวจของมูลนิธิความเห็นสาธารณะของไต้หวัน ระบุว่า ผู้ตอบสำรวจร้อยละ 77 เห็นว่าควรมีการจำกัดสิทธิในการสมรสไว้เฉพาะคู่ชายหญิง

เมื่อพ.ค. ปี 2017 ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาตัดสินให้ฝ่ายนิติบัญญัติของไต้หวันแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดทางให้กลุ่มหลากหลายทางเพศจดทะเบียนสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้เวลา 2 ปีในการแก้ไขกฎหมายให้เสร็จ แต่หากกฎหมายยังแก้ไขไม่เสร็จภายในพ.ค. 2019 คู่รักเพศเดียวกันก็สามารถจดทะเบียนสมรสได้เลย

จนถึงปัจจุบัน การแก้ไขกฎหมายการสมรสยังคืบหน้าไปไม่มากนัก และฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็เรียกร้องให้มีการร่างกฎหมายใหม่ เพื่อให้สิทธิกับคู่รักเพศเดียวกันโดยเฉพาะ แทนการแก้ไขกฎหมายเดิมที่กำหนดว่าการสมรสจะกระทำได้ระหว่างชายหญิงเท่านั้น

ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นางสาวไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันได้ประกาศว่าจะอนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันสมรสกันได้อย่างเท่าเทียมกับคู่ชายหญิง แต่เมื่อสังคมถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างดุเดือด พรรค DPP ของเธอกลับลังเลที่จะสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายการสมรส เพราะกลัวว่าจะกระทบกับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในวันเดียวกับที่มีการทำประชามติ

การลงประชามติถามความเห็นในทุกประเด็นจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนร้อยละ 25 หรือประมาณ 4.95 ล้านเสียงจากประชากรทั้งหมด 24 ล้านคนของไต้หวัน ฝ่ายนิติบัญญัติจึงจะรับรองกฎหมายออกมาบังคับใช้ในอีก 3 เดือนต่อมา แม้การลงประชามติครั้งนี้จะไม่สามารถหยุดยั้งการสมรสของคู่รักเพศเดียวกันได้ แต่ก็อาจจำกัดสิทธิของกลุ่ม LGBTQ ได้ เพราะจะทำให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมมีอำนาจต่อรองในรัฐสภาได้มากขึ้น

ที่มา : Nikkei, The Diplomat