ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ต.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ได้เยี่ยมชมโบราณสถานในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งเป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้น ณ เมืองลพบุรี เมื่อประมาณ พ.ศ. 2208 - 2209 ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ไกลจากแม่น้ำใหญ่ มีป่า ภูเขา สัตว์ป่าชุกชุม ทำให้ต้องอัธยาศัย และรู้สึกปลอดภัยเมื่อประทับอยู่ที่เมืองลพบุรี
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างพบปะกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับว่า รู้สึกอบอุ่นใจที่ได้กลับมาบ้านเดิมสมัยเด็ก ๆ และมาในพื้นที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจังหวัดลพบุรีเป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรม เป็นดินแดนแห่งความสงบ และเป็นดินแดนแห่งความปลอดภัย พร้อมกล่าวย้ำว่าการลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ใช่เพราะประเด็นการเมืองหรือมาหาเสียง แต่มาเพื่อพบปะติดตามดูปัญหาของประชาชน และเพื่อต้องการให้ประชาชนเห็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล
ทั้งนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ดูแลจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง หรือดูแลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จึงจำเป็นต้องให้เกิดความเชื่อมโยงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าถึงการบริการภาครัฐ โครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมแหล่งเงินทุน การเข้าถึงโอกาสต่าง ๆ อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะเรื่องสาธารณสุขจะต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณต่าง ๆ รัฐบาลจะพิจารณาและคำนึงถึงความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นหลัก ไม่ใช่สนับสนุนงบประมาณทุกอย่างตามที่มีการเสนอขอรับสนับสนุน
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่าอยากให้ทุกคนตั้งเป้าหมาย วาดภาพจำใหม่ พร้อมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องการเกษตรต้องยึดหลักการตลาดนำการผลิต เข้าใจกลไกตลาด รวมทั้งหาอาชีพเสริมรองรับเมื่อเกิดอุทกภัย พร้อมกับให้รวมกลุ่มกันส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง สร้างสตอรี่ สร้างแรงจูงใจ นำมาเป็นจุดขาย รวมถึงส่งเสริมที่พักอาศัยในชุมชนแบบโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็ค และให้นำการเกษตรเข้ามารวมอยู่ในโปรแกรมการท่องเที่ยวด้วย รวมถึงช่วยกันรักษาความสะอาดและเป็นเจ้าบ้านที่ดี
เพราะเรื่องอะไรก็ตามที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง สร้างความเกลียดชัง ขอให้ประชาชนอย่าสนใจมากนัก จะต้องมีแนวคิดที่ถูกต้อง มีเหตุและผล สร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้น และต้องการให้ทุกคนระลึกอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นคนจังหวัดไหน อยู่ภาคใดก็ตาม เมื่อเกิดปัญหาและเกิดอุทกภัยขึ้นในประเทศไทย ขอให้ทุกคนส่งใจให้ความช่วยเหลือ เพราะทุกคนคือคนไทย อยู่บนแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นแผ่นดินของทุกคน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีทำสัญลักษณ์มือ "ไอเลิฟยู" พร้อมกล่าวขอคำมั่นสัญญากับประชาชนว่า สัญญากับรัฐบาลได้ไหมว่าจะไม่ทำให้บ้านเมืองถอยหลัง จะเลือกคนดีเข้ามาบริหารประเทศ คนที่พร้อมจะทำเพื่อส่วนรวมเป็นหลัก ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย จะต้องเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย แต่ขอให้เป็นประชาธิปไตยที่ลดความขัดแย้ง เดินหน้าประเทศต่อไปให้ได้
นอกจากนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเยี่ยมชมนิทรรศการกิจกรรมต่าง ๆ ของตัวแทนชุมชนใน จ.ลพบุรี เช่น กิจกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวนวัตวิถี การแสดงสินค้าโอทอปและนวัตกรรม การบริหารจัดการน้ำ กสิกรรมไร้สารพิษ และชมผลการดำเนินการของตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรีในการบูรณาการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ตามนโยบายรัฐบาล เป็นต้น จากนั้น นายกรัฐมนตรีออกเดินทางต่อไปยังเทศบาลตำบลเขาพระงาม เพื่อไปตรวจเยี่ยมโครงการบ้านสุขภาวะผู้ป่วยเรื้อรังและผู้สูงอายุ