ท่ามกลางเสียงทัดทานของมิตรประเทศ โดยเฉพาะจากอังกฤษ เยอรมันและฝรั่งเศสที่เป็นคู่สัญญาในข้อตกลงที่ต่างเกรงความขัดแย้งจะกลับมาปะทุรุนแรง นายโดนัลด์ ทรัมป์กลับมองว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่ล้มเหลวและไม่ได้ผล ไม่สามารถยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธในอิหร่านได้จริง ทั้งยังทำให้อิหร่านได้รับเงินช่วยเหลือกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งนายทรัมป์อ้างว่าอิหร่านนำไปใช้ซื้ออาวุธ สนับสนุนการก่อการร้าย และกดขี่ประชาชน ทรัมป์ประกาศตัดสินใจให้สหรัฐฯถอนตัวออกจากข้อตกลงซึ่งลงนามกันเอาไว้เมื่อปี 2015 และสั่งให้เริ่มกระบวนการนำมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม อังกฤษ เยอรมันและฝรั่งเศสได้ออกแถลงการณ์ร่วมยืนยันว่าทั้งสามประเทศจะยังคงยึดมั่นในข้อตกลงที่มีอยู่กับอิหร่านต่อไป แถลงการณ์แสดงความเสียใจที่สหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลง ด้านกระทรวงการคลังของสหรัฐฯชี้แจงว่าการคว่ำบาตรอิหร่านจะใช้เวลาประมาณ 90 ถึง 180 วันจึงจะมีผลต่อการยุติการนำเข้าและส่งออกน้ำมัน, เครื่องบิน และโลหะหายาก ไปยังอิหร่าน และจะทำให้บริษัทต่างชาติที่ติดต่อทำธุรกิจกับอิหร่านไม่สามารถติดต่อทำธุรกิจกับสหรัฐฯได้
ด้านนายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน แถลงว่าการตัดสินใจของทรัมป์แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯไม่ให้ความสำคัญกับการรักษาคำพูด เขาได้สั่งให้หน่วยงานด้านพลังงานนิวเคลียร์ของอิหร่านเตรียมความพร้อมผลิตแร่ยูเรเนียมขึ้นมาอีกครั้ง แต่นายโรฮานีก็กล่าวด้วยว่าเขาจะรอดูผลของการต่อรองในเวลาข้างหน้า ในขณะนี้อิหร่านจะยึดตามข้อตกลงต่อไป เนื่องจากอีกสามประเทศยังคงยึดมั่นอยู่กับข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งยังมีรัสเซียและจีนร่วมลงนามด้วย
ภาพ: AP