ติ๊ก กลิ่นสี หรือ ชาญณรงค์ ขันทีท้าว นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง เผยถึงบทบาทการแสดงเป็นเพศที่สาม ในภาพยนตร์เรื่อง ‘หอแต๋วแตกแหกกระเจิง’ โดยผู้จัด พจน์ อานนท์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างถ่ายทำภาคที่ 5  

ติ๊ก กลิ่นสี ที่ก่อนหน้านี้เคยร่วมเเสดงในภาคที่ 2 มาเเล้ว ให้สัมภาษณ์ กับ วอยซ์ออนไลน์ ว่า สมัยเรียนเคยมีเพื่อนที่เป็น Transgender จำนวนมาก ทำให้ได้สังเกตและเลียนแบบพฤติกรรม จดจำลักษณะการพูด จริตต่างๆ ทั้งการใช้น้ำเสียง คำพูด ร่างกาย โดยนำจุดเด่นที่เป็นคาแรคเตอร์ของแต่ละคนมาปรับใช้ในการแสดง 

เมื่อรวมกับประสบการณ์ในการแสดงส่วนตัว ทำให้สามารถสร้างลักษณะเด่นของตัวละครขึ้นมาได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ยอมรับว่าไม่เคยคิดว่าบทนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี 

"รู้สึกพึงพอใจในความสำเร็จของภาพยนตร์เป็นอย่างมากครับ" ติ๊ก กล่าว

ติ๊ก เคยมีอคติต่อคนข้ามเพศ เพราะไม่เข้าใจถึงการแสดงออกที่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่มีเพื่อนคนหนึ่งทำให้เขาเปลี่ยนแปลงความคิดและตระหนักถึงความเท่าเทียมกัน

เขาเล่าว่า สมัยตอนที่เป็นนักเรียนที่วิทยาลัยช่างศิลป์ฯ ตอนนั้นออกไปวาดรูปนอกสถานที่ ตกเย็นก็ไปนั่งทานข้าวกับเพื่อนๆ และดื่มกัน จนเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นเพศที่สามขึ้นไปร้องเพลงบนเวที โดยการลิปซิงค์ ซึ่งฟังแล้วรู้สึกสนุกมากและทำให้เห็นถึงความกล้าแสดงออกของเขา

"มันเจ๋ง สิ่งที่เขาทำเล่น สนุกๆ มันสามารถนำไปเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ จากนั้นความคิดผมก็เปลี่ยนไป เพราะรู้สึกว่าคนพวกนี้เป็นคนมีความสามารถ มีพรสวรรค์ ธรรมชาติสร้างพวกเขามาให้แตกต่าง สร้างสีสันให้กับทุกคนบนโลกใบนี้ ผมคิดว่าทุกคนและสังคมสมัยนี้ก็ควรจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงของโลก และให้เกียรติพวกเขาด้วย เขาทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น" นักแสดงหนุ่มใหญ่บอก 

เมื่อถามถึงจุดเริ่มต้นในการตัดสินใจรับบทบาทเป็นเพศที่สาม เขากล่าวว่า อยากลองทำอะไรใหม่ๆ เพราะก่อนหน้านี้แม้จะเคยแสดงภาพยนตร์มาก่อน แต่ไม่มีโอกาสได้มารับบทลักษณะดังกล่าว

"ตอนแรกขี้เกียจแต่งตัว แต่งหน้า เพราะเรื่องนี้การแต่งตัวค่อนข้างจะแฟนตาซี ใช้เวลานาน รู้สึกเบื่อ แต่พอเห็นทุกคนตั้งใจทำงาน โดยเฉพาะผู้กำกับ พจน์ อานนท์ ที่ไม่เหมือนผู้กำกับทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบทและกำกับ ส่วนใหญ่จะคิดสดตอนนั้น ทำให้เรามีความตั้งใจมากขึ้น แต่งหน้าแต่งตัว ก็รู้สึกว่ามันก็สนุกดีนะ เป็นการสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เรา" 

บทบาทเพศทางเลือกในภาพยนตร์ ส่งผลให้ 'น้องติ๊กติ๊ก' ลูกชายวัย 2 ขวบของเขาตั้งคำถามถึงการกระทำของพ่อเช่นกัน 

ติ๊ก บอกว่า ไม่รู้จะตอบไปลูกว่าอะไร เลยบอกว่าพ่อไม่สบาย และพยายามอธิบายให้ฟังว่า สิ่งที่ทำคือการเเสดง

"ผมไม่กังวลว่าลูกดูเเล้วจะเลียนแบบ หากเขาจะเป็นอะไร เราก็ยอมรับได้ ผมเปิดกว้าง เนื่องจากธรรมชาติสร้างให้เขาเป็นแบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไร เขาก็คือลูกเรา"