ไม่พบผลการค้นหา
อดีตพนักงาน ธ.ก.ส.ร้องนายกรัฐมนตรี ตั้งกรรมการตรวจสอบสรุปวงเงินรวมโครงการจำนำข้าวที่ผิดปกติ รวมถึงการโอนเงินไปยังบัญชีภายนอกในโครงการจำนำข้าวและมันสำปะหลัง

นางสาวชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ อดีตพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อขอความเป็นธรรม กรณีถูกเลิกจ้างโดยเปิดเผยว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก ตนเองในฐานะผู้ได้รับมอบหมายให้เข้าไปดูแลการสรุปวงเงินรวมในโครงการรับจำนำข้าว และพบว่าธ.ก.ส. แจ้งหนี้ไปยังอตก.และอ.ค.ส.ไม่ถูกต้อง จึงพยายามเปิดเผยข้อเท็จจริงมาโดยตลอดแต่ไม่ได้รับการพิจารณา

ในการตรวจสอบยังพบด้วยว่า การโอนเงินทั้งในโครงการรับจำนำข้าวและโครงการมันสำปะหลัง มีเหตุสงสัยว่าผิดปกติ จึงโต้แย้งและรายงานต่อผู้บังคับบัญชา แต่ผู้บังคับบัญชาในสายงานนโยบายรัฐ กับเพิกเฉยจึงได้ยื่นเรื่องไปยังฝ่ายกฎหมายให้ตรวจสอบแต่ทุกฝ่ายยังคงเพิกเฉย จนนำเรื่องดังกล่าวไปรายงานต่อรองผู้จัดการใหญ่ แต่ยังไม่พบว่ามีการดำเนินการใดๆ เช่นกัน

ต่อมาตนเองถูกส่งเข้าโครงการรักษาสุขภาพ และคณะแพทย์ได้สรุปในเวลาต่อมาว่า "ข้าพเจ้ามีจิตปกติ" ซึ่งหลังจากที่ผลการวินิจฉัยของแพทย์ออกมา ตนเองได้ทำหนังสือขอโยกย้ายกลับตำแหน่งเดิมทันทีแต่ไม่ได้รับการพิจารณา ทั้งยังถูก ธ.ก.ส.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและสั่งห้ามโพสต์ข้อความใดๆอันเป็นเหตุให้กระทบภาพลักษณ์ขององค์กร

จากนั้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2561 ได้เข้าร้องทุกข์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กรณีถูกกลั่นแกล้ง จนถูกพักงาน และเป็นเหตุให้ ธ.ก.ส.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาตรวจสอบ แต่กลับไม่สรุปผลและชี้แจงให้สิ้นข้อกังขา ผู้บริหารกับเรียกเข้าไปพูดคุยเพื่อเจรจายุติด้วยวาจา

อย่างไรก็ตามตนเองพยายามเรียกร้องให้พิสูจน์ความจริงผ่านสื่อสารออนไลน์ จนถูกตั้งกรรมการสอบสวนซ้ำอีกครั้ง เป็นเหตุให้ถูกเลิกจ้างในที่สุด 

ทั้งนี้ขอยืนยันว่าตลอดเวลาการทำงานที่ผ่านมาได้ปฏิบัติงานในฐานะเจ้าพนักงานของรัฐโดยยึดหลักความถูกต้องโปร่งใสมุ่งรักษาผลประโยชน์มาโดยตลอดแม้ถูกกระทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกลิดรอนสิทธิอันพึงมีพึงได้มาโดยตลอดแต่ยังคงยืนหยัดพิสูจน์ความจริง

นางสาวชญาดา ระบุด้วยว่า ธ.ก.ส.ตั้งกรรมการสอบสวนถึง 4 คณะแต่เรื่องยังไม่กระจ่าง ข้อเท็จจริงไม่มีการเปิดเผย โดยอ้างอิงพยานวัตถุอย่างโปร่งใส 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ยังมีความหวังพร้อมเดินหน้าขอความเป็นธรรม เพื่อรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรม ของกฎหมาย จึงขอความเป็นธรรม ต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานนบข. ให้แต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งการสรุปวงเงินแจ้งภาระหนี้ไปยังอตก.และอ.ค.ส.ว่ามีความถูกต้องหรือไม่

และตรวจสอบวงเงินที่โอนไปยัง บัญชีภายนอกในโครงการรับจำนำข้าวและมันสำปะหลัง ตามจดหมายเปิดผนึกทั้ง 2 ฉบับที่เคยยื่นให้กับธ.ก.ส. อันมีเหตุผิดปกติ ว่ามีการทุจริตหรือไม่ 

ในวันเดียวกันนางสาวชญาดา ยังได้แจ้งความ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางเขน เนื่องจากผู้บังคับบัญชาไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน การส่งมอบทรัพย์สินของธนาคารที่ให้นางสาวชญาดารับผิดชอบดูแล ทั้งนี้นางสาวชญาดาต้องการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บุคคลที่นำทรัพย์สินไปโดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางธนาคาร ขณะเดียวกันจะขอคัดสำเนา และข้อมูลต่างๆ จึงมาแจ้งความให้ เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการต่อไป 


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :