ไม่พบผลการค้นหา
'พล.อ.ประวิตร' สั่งทุกภาคส่วนช่วยกันป้องกันลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ เข้มการบังคับใช้กฎหมาย ตรวจเช็กผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตตนเองและผู้อื่น

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่งคงแบบบูรณาการ เพื่อเตรียมความพร้อมรักษาความมั่นคงปลอดภัยของสังคม การป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 โดยที่ประชุมหารือภาพรวมถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยทางสังคม ช่วงสงกรานต์  

โดยพื้นที่ชั้นในจะจัดเป็นพื้นที่จัดงานเฉพาะ หรือ Zoning ขอความร่วมมืองดจำหน่ายแอลกอฮอล์ รณรงค์แต่งกายให้เหมาะสมและร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย กับทุกกลุ่มเสี่ยงที่อาจเป็นภัยกับสังคม และสถานประกอบการที่เป็นแหล่งมั่วสุม การเพิ่มแสงสว่างและกล้องวงจรปิดในพื้นที่เสี่ยงให้มากขึ้นทั้งพื้นที่ชั้นในและชั้นนอก ที่ติดประเทศเพื่อนบ้าน ฝ่ายความมั่นคงยังคงตรวจเข้มสกัดกั้นอาชญากรรม ยาเสพติด และสิ่งปิดกฎหมายเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน

ด้านการดำเนินงานตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 ช่วงคุมเข้ม 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2561 จะเน้นทำงานร่วมกับระดับพื้นที่มากขึ้น โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ตั้งแต่ระดับจังหวัดลงไปถึงระดับท้องถิ่น เพื่อบริหารข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ย้อนหลัง 3 ปี ในแต่ละกลุ่มพื้นที่เฝ้าระวัง และปัจจัยเสี่ยง ทั้งด้านคน ด้านยานพาหนะ ด้านถนนและด้านสภาพแวดล้อม

นอกจากนี้ยังให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายคงเข้มบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และต่อเนื่องกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ประมาท ขาดวินัยและไม่เคารพกฎจราจร โดยเฉพาะขับรถเร็ว เมาสุรา ไม่มีใบขับขี่ การขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ยานพาหนะที่ดัดแปลง และไม่ปลอดภัย, การปรับปรุงเสริมความปลอดภัยกับถนนที่เป็นจุดเสี่ยง จุดอันตราย ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยจากการชำรุดของ ผิวถนนและพื้นที่ก่อสร้าง รวมทั้งเพิ่มแสงสว่างและป้ายสัญญาณ, การจัดตั้ง "ด่านชุมชน" และ "สถาบันครอบครัว" เฝ้าระวังกันเอง, การขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการหยุดหรือหลีกเลี่ยงกิจการรถบรรทุกช่วงเทศกาลสงกรานต์

และให้ตำรวจทางหลวง รับผิดชอบในเส้นทางสายหลัก กระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบในเส้นทางสายรอง และให้ความสำคัญกับการทำงาน ของด่านชุมชนโดยเฉพาะช่วงเย็นถึงกลางคืน ซึ่งทุกด่านตรวจต้องใช้คำพูดสุภาพ วาจาเป็นมิตรและต้องไม่มีการเรียกรับส่วยโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งกำชับให้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมแผน ด้านการตอบสนองหลังการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ทันท่วงที

ทั้งนี้ขอให้ทุกส่วนราชการการประสาน ความร่วมมือกับสื่อมวลชนร่วมประชาสัมพันธ์ สร้างการตระหนักรู้และรณรงค์การมีส่วนร่วม ของประชาชนควบคู่กันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ปีนี้เป็นเทศกาลแห่งความสุขปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม คมนาคมสั่งกรมขนส่งฯ-บขส.เตรียมรถให้เพียงพอต่อความต้องการ

ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้มีการหารือกับ หน่วยงานที่บริหารการเดินรถในช่วงเทศกาล สงกรานต์ เช่น กรมการขนส่งทางบก และบริษัทขนส่งจำกัด(บขส.) โดยเน้นย้ำให้จัดรถบริการผู้โดยสารให้เพียงพอต่อความต้องการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะการเสริมรถโดยสารไม่ประจำทาง หมวด 30 เข้ามาให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยหลังจากนี้ทางขนส่งทางบกแต่ละจังหวัดได้เริ่มทำการตรวจสภาพรถตั้งแต่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้มีรถหมวด 30 เข้ามาลงทะเบียนแล้ว 311 คัน จากเป้าหมายที่ต้องมีรถเข้ามาเสริมไม่น้อยกว่า 400 คัน โดยเมื่อผ่านการตรวจสภาพแล้วจะต้องมีการติดป้ายแสดงหน้ารถ เพื่อให้สามารถนำรถออกวิ่งได้ หากรถคันใดไม่ผ่านการตรวจสภาพก็จะมีการพ่น สเปรย์ "ห้ามใช้" ทันทีรวมทั้งมาตรการคุมเข้มคนขับ ที่ต้องมีระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติดเป็นศูนย์


มหาดไทยเพิ่มมาตรการกำหนดจุด พื้นที่ไหนอุบัติเหตุมาก จะเพิ่มความเข้มงวดขึ้น

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงมาตราการดูแลรักษาความปลอดภัยทางท้องถนนช่วงสงกรานต์ว่า เรื่องสำคัญมากกว่าการจับหรือการบังคับใช้กฎหมายคือการทำให้ทุกคนตระหนักในการใช้รถใช้ถนน ดังนั้น หากอยากให้เกิดการสูญเสียน้อยลง พล.อ.อนุพงษ์ มองว่ามาตรการต่างๆ ออกมาหมดแล้ว แต่การทำอย่างไรให้คนตระหนักเรื่องของความมีวินัยในการใช้รถใช้ถนน อย่าขับเร็ว อย่าดื่มสุรา สิ่งที่ดีน่าจะเกิดจากตัวเราเอง อีกทั้งยังเพิ่มมาตรการกำหนดจุด โดยใช้สีในแต่ละพื้นที่ หากพื้นที่ใดมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมาก จะมีมาตรการเข้มงวดขึ้น หรือมีการปฏิบัติที่เข้มข้นขึ้น แต่ละพื้นที่จะมีการบูรณาการกัน

ส่วนมาตรการงดเว้นรถบรรทุกไม่ให้ใช้เส้นทางหลักแต่ให้ไปใช้เส้นทางรองแทนนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จะให้มีการหลีกเลี่ยง หรืองดใช้บางเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางเป็นหลัก

สตช.ขอเล่นสงกรานต์สุภาพ ฝ่าฝืนเจอปรับ 2 หมื่น คุก 10 ปี

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีหนังสือสั่งการถึงทุกหน่วยให้เริ่มปฏิบัติการ 4 มาตรการหลักเพื่อรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ เน้นอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ขอคืนผิวการจราจรให้มากที่สุดและยังอนโลมให้นั่งท้ายรถกระบะ แต่หากมีพฤติกรมที่ส่อให้เกิดอันตรายจะใช้ดุลพินิจในการตักเตือนหรือดำเนินคดี รวมถึงการตรวจเข้มรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ด้วยการสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ขับรถโดยสารหากพบการกระทำผิดจะถูกดำเนินคดีทั้งผู้ขับขี่และเจ้าของรถ

ตำรวจทางหลวงและตำรวจท้องที่จะเปิดจุดให้บริการประชาชน รวมทั้งเพิ่มมาตรการความปลอดภัยและการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยยังดำเนินการฝากบ้านไว้กับตำรวจ และเพิ่มความเข้มงวดเรื่องการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่จำหน่ายให้บุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือจำหน่ายในที่ห้าม หรือเมาแล้วขับ จะมีการยึดรถและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

อีกทั้งยังเพิ่มความการตรวจเข้มที่จุดจัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ โดยให้ประชาชนเล่นน้ำอย่างสุภาพ พร้อมเตือนกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มบุคคลที่อาจมีพฤติกรรมคึกคะนอง หากกระทำการลวนลามหรืออนาจาร จะมีโทษหนักจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท