น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยอดการจองที่พักในโครงการเราเที่ยวด้วยกันวันแรก เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการจองของประชาชนแล้วอยู่ที่ 3.6 ล้านคน โดยนับจากการที่โรงแรมที่พักได้ส่งอัตราค่าห้องพักให้นักท่องเที่ยวได้ชำระเงิน โดยเมืองหลักยังคงได้รับความนิยมสูง ส่วนแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้มียอดจองสูงสุดในภาคตะวันออกและตะวันตก โดยประชาชนนิยมจองโรงแรมติดทะเล และส่วนใหญ่จะจองเพียง 1 คืน ส่วนแหล่งท่องเที่ยวระยะไกล ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัดกระบี่ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมจองที่พักจำนวน 2 คืน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางด้านระบบสมัครรับสิทธ์ ระบบการแจ้งยอด และระบบชำระค่าห้องพักนั้นทุกอย่างถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี คาดว่าช่วงวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ประชาชนจะทยอยเข้าร่วมโครงการฯและจองห้องพักมากขึ้น โดยในช่วงสัปดาห์หน้าที่มีช่วงวันหยุดยาวชดเชยสงกรานต์ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่จะเริ่มมีการเดินทางในช่วงวันที่ 24 ก.ค.เป็นต้นไป ในส่วนสิทธิพิเศษ ตามโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" นั้น รัฐได้สนับสนุนค่าใช้จ่าย 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ซึ่งจองได้ไม่เกิน 5 คืน ซึ่งมีด้วยกัน 5 ล้านสิทธิ์
ทั้งนี้รัฐบาลขอความร่วมมือและย้ำเตือนไปยังผู้ประกอบการโรงแรมที่พักว่าอย่าใช้โอกาสนี้ขึ้นราคาที่พัก หลังพบข้อมูลในโซเชียลมีเดียว่ามีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยจะมีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบว่ามีการขึ้นราคาจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว หากพบว่าโรงแรมมีการขึ้นราคาจริง โรงแรมจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการทันที ซึ่งโครงการเราเที่ยวด้วยกันนี้ มุ่งหวังที่จะส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว เพื่อกระจายรายได้สู่พื้นที่ต่างๆ อันเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาครวม จึงหวังว่าผู้ประกอบการจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ฉวยโอกาสกับประชาชน