นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ที่เนินนมสาว ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ว่า เมื่อ 10.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำจากต่างประเทศ 13 คน และหน่วยซีลไทย 5 นาย ได้เริ่มเข้าไปปฏิบัติภารกิจลำเลียง ทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำหลวง ซึ่งภารกิจจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จึงต้องใช้เวลาพอสมควร โดยประเมินว่าคนแรกที่ออกมาจากถ้ำเร็วสุดจะอยู่ที่เวลาประมาณ 21.00 น. คืนนี้
พร้อมกับยืนยันว่า ขณะนี้มีความพร้อมในทุกด้าน หลังจากวานนี้ได้ขอความร่วมมือให้ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ ขณะที่ระดับน้ำในถ้ำ จากโถง 1-3 สามารถเดินทะลุถึงกันได้แล้ว หลังจากดำเนินการสูบน้ำออกจากถ้ำ ซึ่งบางจุดลดลงได้ถึงกว่า 30 เซนติเมตร ขณะเดียวกัน วันนี้ยังมีความพร้อมด้านสภาพอากาศ ก่อนที่พายุลูกใหม่จะเข้ามา ดังนั้นหากยังรอต่อไป แล้วมีฝนมาเติม ความพร้อมจาก 100 เปอร์เซ็นต์ จะอยู่ในระดับต่ำทันที
ด้านความพร้อมของทั้ง 13 คน ตอนนี้มีความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจสูงมาก และรับทราบภารกิจที่จะปฏิบัติแล้ว ทั้ง 13 คนมีความพร้อมที่จะออกมา รวมถึงครอบครัวของทุกคนทราบเรื่องแล้ว และเห็นด้วยกับภารกิจนี้
"การลำเลียงจะเป็นในลักษณะทยอยกันออกมา 1 คน จะมีผู้ดูแล 2 คน ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาพอสมควร ภารกิจจะต่อเนื่องจนกว่าจะคนสุดท้ายจะออกมา" นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
พลตรี ฉลองชัย ชัยยะคํา รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า การปฏิบัติงานครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติงานร่วม มีการเขียนแผนร่วมกัน ซึ่งแผนจะต้องมีความสมบูรณ์ ง่าย ชัดเจน ปฏิบัติได้จริง ทั้งนี้ การทำแผนมีหลายหนทางปฏิบัติด้วยกัน แต่เราเลือกหนทางปฏิบัติที่ดีที่สุดมาเปรียบเทียบกัน จากนั้นได้มีการซักซ้อมแผน จนเมื่อมั่นใจแล้วจึงได้เริ่มปฏิบัติภารกิจ
"ในห้วงเวลานี้ จะทยอยกันออกมา คาดว่าจะใช้เวลา 2-4 วัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสภาพอากาศ และสภาพน้ำที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้" พลตรี ฉลองชัย กล่าว
พลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ขอบคุณทุกฝ่ายทุกส่วน สื่อต่างๆ ประชาชน ที่ให้ความร่วมมือ ระเบียบจราจร ระเบียบสื่อ จะต้องขอความร่วมมือต่อไปจนเสร็จสิ้นภารกิจ
นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า สภาพอากาศขณะนี้แม้จะมีฝนตกลงมาบ้าง แต่ปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดี ส่วนความพร้อมในการสนับสนุนไฟภายในถ้ำเป็นไปอย่างเสถียร ดำเนินไปได้ด้วยดี และจะพยายามไม่ให้ระบบไฟมีปัญหาขณะที่ยืนยันว่าระดับน้ำในถ้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
ดุสิตโพล ชี้ประชาชนประทับใจเห็นพลังการช่วยเหลือ13ชีวิตทีมหมูป่า
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,348 คน เรื่อง คนไทยได้อะไร? จากกรณี 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง โดยทำการสำรวจ ระหว่างวันที่ 3 – 7 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 46.27 ได้เห็นพลังความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจจากทั้งคนไทยและต่างชาติ ตั้งแต่วันแรกจนวันที่พบทั้ง 13 คน รองลงมา ร้อยละ 28.57 เป็นห่วงเด็กและเจ้าหน้าที่ เอาใจช่วย ลุ้น ขอให้ออกมาได้อย่างปลอดภัยในเร็ววัน และร้อยละ 18.57 มองว่า เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่เป็นอุทาหรณ์และให้บทเรียนอันล้ำค่า
ขณะที่การช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงครั้งนี้ ประชาชนประทับใจเรื่องใดมากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 57.69 ประทับใจการช่วยเหลือจากคนไทยและต่างชาติ น้ำใจที่มีให้แก่กัน ร้อยละ 33.01 การทำงานเป็นทีม การวางแผน การแบ่งงานตามหน้าที่รับผิดชอบ และร้อยละ 23.88 ประทับใจหน่วยซีล ทีมดำน้ำ และทีมค้นหา
อย่างไรก็ตาม บทเรียน ที่สังคมไทยได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ การแก้ไขปัญหาจะสำเร็จลุล่วงได้ ต้องอาศัยการทำงานอย่างเป็นระบบ ความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ พร้อมให้มีมาตรการดูแลป้องกันมากขึ้น กำหนดกฎระเบียบที่ชัดเจน มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :