นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม เขต 5 ว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน โดยเอาชนะพรรคอนาคตใหม่ได้ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณไปยังพรรคอนาคตใหม่แล้วว่า ส.ส.จะต้องยึดโยงกับประชาชน โดยเฉพาะ ส.ส.เขตเลือกตั้ง ที่จะต้องทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนตลอดเวลา
ทั้งนี้ ตระกูลสะสมทรัพย์มีศักยภาพ ทำงานให้กับประชาชนมายาวนาน ไม่เคยทิ้งประชาชน อีกทั้งพรรคชาติไทยพัฒนาก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ประชาชนจึงลงคะแนนให้ เพราะมองว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมืองและมีผลงานมากมายที่เข้าถึงความต้องการของประชาชน
นายธนกร กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคอนาคตใหม่นั้นคงเสียขวัญไม่น้อย เพราะมั่นใจว่าจะชนะแน่นอน แกนนำพรรคลงพื้นที่หาเสียงอย่างหนัก พยายามชูประเด็นหาเสียงว่าเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล จะโค่นรัฐบาลให้ได้ หวังดิสเครดิตรัฐบาล แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะวันนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่พี่น้องประชาชนกำลังเคลือบแคลงสงสัย และภายในพรรคเองก็มีปัญหาต่างๆ มากมายจนมีส.ส.หลายคนเริ่มอึดอัด โดยเฉพาะการรวบอำนาจไว้คนเดียว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น
นอกจากนี้ พรรคอนาคตใหม่ยังทำการเมืองที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน มุ่งเน้นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเดียว ไม่เสนอนโยบายที่เป็นรูปธรรมต่อประชาชน ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีสัญญาณหลายๆ อย่างที่ประชาชนสะท้อนผ่านคะแนนเสียงที่ออกมา
'สนธิรัตน์' ยินดี 'เผดิมชัย' เติมรบ.พุ่ง 255 เสียง
ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 จังหวัดนครปฐม ที่นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ชนะอย่างท่วมท้น ว่า ขอแสดงความยินดีกับนายเผดิมชัยที่ทำการบ้านลงพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้ยังสะท้อนว่า ประชาชนให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เดินหน้าผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้อง ประชาชนจึงเลือกพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้เสียงรัฐบาลในสภามีเสถียรภาพมากขึ้น สามารถผลักดันกฎหมายฉบับสำคัญเพื่อผลประโยชน์ของส่วนร่วมได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านให้เหตุผลถึงการเลือกตั้งซ่อมวันพุธทำให้พ่ายแพ้นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ไม่น่าจะส่งผลกับการเลือกตั้งให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะผู้สมัครส.ส.จากทุกพรรคก็มีความได้เปรียบเสียเปรียบตรงจุดนี้เช่นเดียวกัน อีกทั้งเมื่อดูในภาพรวมจะเห็นว่าชาวสามพรานตื่นตัวมาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมเป็นจำนวนมาก กว่าร้อยละ 64 น้อยกว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมาเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง