ไม่พบผลการค้นหา
รองอธิบดีดีเอสไอ เดินทางไปให้กำลังใจมึนอ ภรรยาของบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงที่เพชรบุรี ด้านกระทรวงยุติธรรม เตรียมประชุมคณะกรรมการพิจารณาเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวบิลลี่ วันที่ 12 ก.ย. นี้ พร้อมให้การช่วยเหลือด้านการศึกษากับบุตร 2 คนตามคำร้องขอของภรรยาบิลลี่ด้วย

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าพบ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ ‘มึนอ’ ที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อแจ้งความคืบหน้าในการสอบสวนพิสูจน์หลักฐานคดีฆาตรกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ อดีตแกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย

พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอทำงานอย่างตรงไปตรงมา และก่อนที่จะรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษก็มีข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีของนายบิลลี่แล้ว โดยระหว่างนี้จะมีคณะทำงานเข้ามาในพื้นที่ตลอด สำหรับหลักฐานสำคัญคือถังน้ำมัน 200 ลิตร และชิ้นส่วนกระดูก 20 ชิ้น ได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ 8 ชิ้น ส่วนที่เหลือมีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกระดูกมนุษย์หรือไม่ สำหรับกระดูก 8 ชิ้นที่พบว่าเป็นกระดูกของมนุษย์นั้น ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าทั้งหมดเป็นของนายบิลลี่หรือไม่ หลังจากนี้จะต้องให้เวลาสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบยืนยันกับดีเอ็นเอ

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.กรวัชร์ ไม่ขอเปิดเผยว่าได้พิกัดข้อมูลจุดทิ้งถังและเศษชิ้นส่วนกระดูกจากแหล่งใด กล่าวได้เพียงว่าดีเอสไอลงพื้นที่สืบสวนมานานหลายปี มีแหล่งข่าวที่ให้เบาะแสข้อมูล ร่วมกับการสอบสวนจากหลักพฤติกรรมศาสตร์ และเรื่องภูมิศาสตร์อาชญากรรมมาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้

ในส่วนของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ขอให้มั่นใจในการทำงานของดีเอสไอ ซึ่งพยานปากสำคัญ และครอบครัวของนายบิลลี่ได้เข้าโครงการคุ้มครองพยานทั้งหมดแล้ว และขอยืนยันว่าจะเร่งสอบสวนเพื่อปิดสำนวนคดีให้เร็วที่สุด

น.ส.พิณนภา กล่าวว่า ส่วนตัวมั่นใจในการทำงานของดีเอสไอ แต่ยังกังวลเรื่องผู้มีอิทธิพลจะเข้ามาแทรกแซงทำให้ดีเอสไอทำงานไม่สะดวก ส่วนกรณีที่มีกลุ่มบุคคลอ้างว่าอาจจะเป็นกระดูกของนายบิลลี่ซึ่งเสียชีวิตแล้วถูกนำมาลอยอังคารนั้น น.ส.พิณณภา ยืนยันว่าประเพณีคนกะเหรี่ยงเมื่อมีการเสียชีวิตจะเผา หรือฝังเท่านั้น และไม่มีการเก็บกระดูกไปลอยอังคาร ตนไม่ทราบวัฒนธรรมนี้

สำหรับเรื่องภาพที่ปรากฏในแฟลชไดร์ฟของนายบิลลี่ ที่เป็นภาพขณะที่กลุ่มอิทธิพลเข้าลักลอบตัดไม้นั้น เป็นสาเหตุให้นายบิลลี่ถูกฆาตรกรรมหรือไม่ พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ได้เห็นหลักฐานดังกล่าวแล้ว และคิดว่าเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีของดีเอสไอ ซึ่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ก็เป็นห่วงพร้อมได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ให้ค่อยดูแล เยียวยาครอบครัวของนายบิลลี่ หากมีเรื่องเดือดร้อนอย่างไรก็สามารถแจ้งต่อดีเอสไอได้ทันที 

หลังจากการให้สัมภาษณ์ พ.ต.ท.กรวัชร์ ได้ขอให้สื่อมวลชนออกจากพื้นที่เพื่อให้ทีมสอบสวนได้พูดคุยกับ น.ส.พิณนภา เป็นการส่วนตัว 

ก่อนจะนำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบบริเวณสะพานแขวนใกล้เขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งเป็นจุดที่ค้นพบกระดูกของนายบิลลี่

รองดีเอสไอ.jpg


ยธ. หารือเยียวยาครอบครัว "บิลลี่" 12 ก.ย. นี้

นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงแผนการช่วยเหลือครอบครัวของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยสั่งการให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ ลงไปดูแลเยียวยาทั้งตามกฎหมายและตามโครงการยุติธรรมใส่ใจ ซึ่งเป็นแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิตหรือเหยื่ออาชญากรรมแบบบูรณาการ โดยขณะนี้ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามและเข้าพบญาติเพื่อแจ้งสิทธิ และรับคำขอรับค่าตอบแทนค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายจำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 จากมึนอ ภรรยาของบิลลี่แล้ว

ซึ่งจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนของกรมคุ้มครองสิทธิฯ ในวันที่ 12 ก.ย. นี้ เนื่องจากเป็นคดีพิเศษและอยู่ในความสนใจของประชาชน หากคณะอนุกรรมการฯ พิจารณาเห็นว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ ทายาทของบิลลี่ จะได้รับค่าตอบแทน ได้แก่ ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย ค่าจัดการศพ ค่าขาดอุปการะ และค่าตอบแทนความเสียหายอื่นๆ รวมประมาณ 100,000 บาท

นอกจากนี้ ยังได้รับการร้องขอจากมึนอ ด้วยว่าต้องการความช่วยเหลือเรื่องการศึกษาแก่บุตรทั้ง 2 คน ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้รับเรื่องและเบื้องต้นได้ใช้กระบวนการยุติธรรมใส่ใจในการประสานกับโรงเรียนที่บุตรของบิลลี่เรียนอยู่เพื่อขอรับทราบค่าใช้จ่าย และจะระดมทุนการศึกษาจากหน่วยงานต่างๆ ที่มีความพร้อมเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: