ไม่พบผลการค้นหา
'แรมโบ้' โต้ข่าวถูกสกัดดูแลพื้นที่อีสานรวมไทยสร้างชาติ ยืนยันไม่ขัดแย้ง 'พีระพันธุ์' ไม่เคยต่อรองตำแหน่ง มีแต่ความตั้งใจเข้ามาช่วยงานให้พรรคเติบโต หวังให้ 'ประยุทธ์' เป็นนายกฯ อีกสมัย

วันที่ 30 ธ.ค. 2565 เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกระแสข่าวปัญหาภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่เห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะให้เสกสกล ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน คนเดียว โดย พีระพันธุ์ จึงเสนอจะให้ทำงานร่วมกับ วิทยา แก้วภราดัย กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ นั้น

เสกสกล ยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งกับ พีระพันธุ์ หรือคนในพรรคเรื่องของการดูแลพื้นที่ภาคอีสาน ตามที่มีกระแสข่าว รวมถึงไม่มีการต่อรองตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ตนเองยินดีที่จะทำงานการเมืองร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งใดๆหรือไม่ เพราะส่วนตัวมีความตั้งใจที่อยากจะเข้ามาช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ และสนับสนุนให้ได้เป็นนายกฯ อีกครั้ง อีกทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังถือว่าเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกันคือ ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  

ส่วนการเข้าสมัครสมาชิกพรรค ตนเองจะเป็นผู้ที่นำอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย นิตยา นาโล หรือ "นักสู้ปอสี่" อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน สมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ เข้ามาสมัคร

สมาชิกพรรคหลังปีใหม่อย่างแน่นอน แต่ที่ยังไม่เข้าสมัครตอนนี้ เพราะเพิ่งลาออกจากหัวหน้า และสมาชิกพรรคเทิดไท  

“ตนเองยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกับนายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือคนในพรรคอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันถึงการทำงานในพรรค ให้พรรคเติบโต ส่วนจะมอบภารกิจให้ตนเองไปช่วยงานด้านใดก็อยู่ที่หัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรค โดยไม่เคยมีการไปพูดต่อรองตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น"

เสกสกล ระบุอีกว่า เป้าหมายภารกิจสำคัญและความตั้งใจของตนคือการทำหน้าที่ในการช่วยให้พรรครวมไทยสร้างชาติ เติบโตเข้มแข็งให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่มั่นคงและที่พึ่งพาของพี่น้องประชาชนคนไทย เป็นพรรคการเมืองที่ทำให้ประชาชนมีความหวังไว้เนื้อเชื่อใจอยู่คู่กับประชาชนตลอดไปและสำคัญที่สุดต้องชูนโยบายและผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ประชาชนรับรู้รับทราบและรวมพลังช่วยกันสนับสนุนให้ท่านกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น พวกเราจึงไม่มีเวลาที่จะมาสร้างความขัดแย้งใดๆในพรรคทั้งสิ้น มีแต่จะต้องทุ่มเทเสียสละเพื่อขับเคลื่อนพรรคฯเติบโตและเดินไปข้างหน้าเพื่อชัยชนะของประชาชน และกลับมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป