นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดตัวองค์กรกัญชา เพื่อป้องกัน-รักษาโรค โดยระบุว่า สภาเกษตรกรแห่งชาติ จะเข้าร่วมเป็นกรรมการสนับสนุนกฎหมายลูก ซึ่ง พ.ร.บ. สภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ. 2553 มาตรา 11 (5) ให้สภาเกษตรกร มีหน้าที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านพันธุกรรมพืชและสัตว์ท้องถิ่น ผลผลิตทางเกษตรกรรม และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแปรรูป โดยแถลงแนวทางคือ
1) จะจัดเวทีเสวนา เรื่อง ความหลากหลายทางพันธุกรรม และสรรพคุณของกัญชาและกระท่อม ซึ่งเป็นพืชประจำถิ่น ในวันที่ 20 เดือนธันวาคมนี้ พร้อมสนับสนุนแถลงการณ์ของเครือข่ายประชาสังคมกัญชาเพื่อการแพทย์สำหรับประชาชน
2) สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ของนายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และจะเดินทางไปพบนายสมชาย ในวันพรุ่งนี้ที่ 22 พฤศจิกายน เพื่อยื่นบันทึกสนับสนุนและความเห็นในการปรับปรุงแก้ไขร่างฯบางมาตรา โดยเฉพาะการให้แพทย์แผนไทยและแผนโบราณใช้ประโยขน์ได้ด้วย
3) เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงและรักษาตนเอง ตามรัฐธรรมนูญและรัฐมีหน้าที่อนุรักษ์ ฟื้นฟูและส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยให้คนท้องถิ่นมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์ รวมถึงอนุญาตให้เข้าถึงการรักษาด้วยแพทย์แผนไทย ตำรับยาไทย ซึ่งได้ระบุเอาไว้แล้วมากกว่า 300 ปี สอดคล้องกับประกาศองค์การอนามัยโลก ที่ให้ใช้ตำรับยาแผนโบราณที่มีอยู่เดิมและปราศจากสารพิษ โดยไม่ต้องวิจัยเพิ่มเติม
4) ห้ามต่างชาติจดสิทธิบัตรกัญชาและกระท่อมเป็นระยะเวลา 10 ปี เพื่อให้นักวิจัยไทยได้มีโอกาสวิจัยและพัฒนาสารสกัดจากกัญชาให้เท่าทันต่างชาติ
5) จัดตั้งองค์กรกัญชาเพื่อการป้องกันรักษาโรค ทำหน้าที่ขับเคลื่อนให้เกิดกฎหมาย นโยบาย และมาตรการต่างๆของรัฐ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วยและประเทศ รวมถึงการดูแลผู้ป่วยที่ใช้สารสกัดกัญชาในการรักษาตนเองด้วย
6) ให้พืชกัญชาและกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของไทย เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้ใช้สร้างรายได้ให้ตัวเองและประเทศชาติโดยรวม มีการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมภายใต้การควบคุมกำกับดูแลจากภาครัฐ
7) จัดตั้งศูนย์กลางบำบัดรักษาโรคด้วยกัญชาและกระท่อมในประเทศไทย
โดยจากนี้ สภาเกษตรกรแห่งชาติจะทำบันทึกถึงนายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางวิจัยและพัฒนาพืชกัญชาและกระท่อมเพื่อการบำบัดรักษาโรค อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นด้วยกับการเปิดเปิดเสรีกัญชา แต่ให้ออกกฎหมายที่ครอบคลุมการผลิตยารักษาโรคและใช้สำหรับผู้ป่วย โดยให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการปลูกแล้วส่งมอบใหเหน่วยการรัฐที่รับผิดชอบ การเปิดเสรีอาจต้องรอสักระยะหนึ่ง
ทั้งนี้กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน หรือ (FTA Watch) ได้ออกแถลงการณ์ตามที่สนช.ได้เชิญกรมทรัพย์สินทางปัญญาเข้าพบ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ให้ข้อมูลว่า ไม่สามารถล้างไพ่ใหม่เพื่อยกคำขอทั้งหมดได้เพราะติดปัญหา TRIPs Agreement และมาตรา 17 วรรคท้ายของพ.ร.บ.สิทธิบัตร ที่เขียนว่า "ในกรณีที่ประเทศไทยเข้าเป็นภาคแห่งความตกลง หรือความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิบัตร
หากคำขอรับสิทธิบัตรเป็นไปตามกำหนดในความตกลงหรือความร่วมมือระหว่างประเทศดังกล่าว ให้ถือว่าคำขอดังกล่าวเป็นคำขอรับสิทธิบัตรตามพระราชบัญญัตินี้ คำชี้แจงของกรมทรัพย์สินดังกล่าว คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เนื่องจากการยกเลิกสิทธิบัตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นอำนาจตามกฎหมายไทยอย่างสมบูรณ์
ดังนั้นสมาชิกสนช.จำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูล มิฉะนั้นอาจได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อนหรือไม่ครบถ้วน ซึ่งจะเกิดปัญหากับความตั้งใจดีของสนช.ที่มีความประสงค์จะเพิกถอนสิทธิบัตร และผลักดันร่างกฎหมายเพื่อเปิดให้มีการวิจัย พัฒนา และใช้ประโยชน์กัญชาเพื่อการแพทย์ได้