ไม่พบผลการค้นหา
แบงก์ชาติแจงกระแสวิจารณ์พิมพ์โทษปรับสูงสุดในธนบัตรแบบใหม่ไม่ตรงกฎหมาย ชี้กระบวนการจัดพิมพ์เกิดก่อนประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2560 ย้ำโทษปลอมและแปลงธนบัตร ปรับสูงสุด 4 แสนบาท

เนื่องจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การพิมพ์อัตราโทษการปลอมแปลงธนบัตรแบบใหม่ว่ามีโทษปรับสูงสุด 4 หมื่นบาท ทั้งที่ ตามกฎหมายปัจจุบันโทษปรับ 2 แสน - 4 แสนบาทนั้น

ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจ้งว่า เนื่องจากกระบวนการออกแบบและจัดพิมพ์ธนบัตรใหม่ต้องใช้เวลาเตรียมการล่วงหน้า ซึ่งกระบวนการจัดพิมพ์ธนบัตรแบบ 17 เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2559 จึงปรากฏข้อความเตือนระบุโทษการปลอมหรือแปลงธนบัตรตามกฎหมายข้อความเดิมเช่นเดียวกับธนบัตรส่วนใหญ่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน 

ต่อมามีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (พ.ศ. 2560) ซึ่งได้ปรับปรุงโทษสูงสุดของการปลอมหรือแปลงธนบัตรจาก สี่หมื่นบาทเป็นสี่แสนบาท 

ดังนั้น จึงขอแจ้งว่าผู้ที่ปลอมหรือแปลงธนบัตรจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา ธปท. ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อปรับแบบธนบัตรให้สอดคล้องกับกฎหมายที่ออกมาใหม่ โดยธนบัตรทั้ง 5 ชนิดราคา (20 บาท 50 บาท 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท) ที่จะออกใช้ตั้งแต่วันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ วันที่ 28 ก.ค. 2561 เป็นต้นไป จะใช้ข้อความว่า “การปลอมหรือแปลงธนบัตรเป็นความผิด ต้องระวางโทษตามประมวลกฎหมายอาญา” แทนข้อความเดิมเพื่อให้สามารถรองรับการแก้ไขกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย

ทั้งนี้ ธปท.ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้จัดพิมพ์ธนบัตรแบบใหม่ (แบบ 17) 5 ชนิดราคา เพื่อใช้เป็นธนบัตรหมุนเวียนทั่วไป โดยธนบัตรชนิดราคา 20 บาท 50 บาท และ 100 บาท ได้เริ่มออกใช้ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 2561 ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ธนบัตรทุกแบบที่ออกใช้ก่อนหน้านี้ยังสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายโดยไม่มีการยกเลิกการใช้