ไม่พบผลการค้นหา
กรมประมง ชี้แจงกรณีออกมาตรการควบคุมการทำประมง ชี้ส่วนใหญ่เป็นมาตรการที่มีอยู่แล้วแต่เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น ส่วนมาตรการใหม่บางเรื่องมีการหารือแนวทางที่เหมาะสมต่อเนื่อง ย้ำไม่มีการเลือกปฏิบัติ

จากกรณีที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวชาวประมงในหลายพื้นที่ได้รวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมงเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของชาวประมงในแต่ละพื้นที่ พร้อมตั้งเงื่อนไขหากรัฐบาลไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ผู้ประกอบการเรือประมงกว่า 3,000 ลำ จะงดทำการประมงตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป และจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีการออกพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบนโยบายที่สำคัญในการออกกฎหมายลำดับรองต่างๆ โดยรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน กรมประมงได้มีการศึกษาถึงผลกระทบ พร้อมหารือร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและร่วมกันตัดสินใจในทุกกระบวนการ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติกับชาวประมงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ มาตรการต่าง ๆ ส่วนใหญ่เป็นมาตรการที่มีอยู่เดิมเพียงแต่เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายมากยิ่งขึ้น เช่น ห้ามอวนล้อมจับที่มีขนาดช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ทำการประมงในเวลากลางคืน ส่วนการออกมาตรการใหม่ในบางเรื่องนั้น ก็ล้วนได้ผ่านการหารือกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีแนวทางที่เหมาะสมที่ชาวประมงพื้นบ้านและชาวประมงพาณิชย์สามารถทำประมงร่วมกันได้อย่างไม่มีความขัดแย้ง

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าข้อกฎหมายใดที่ชาวประมงไม่สามารถปฏิบัติได้หรือไม่เหมาะสม ทั้งจากการได้รับข้อร้องเรียนจากชาวประมง และจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ภาครัฐโดยกรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปรับเปลี่ยนแก้ไขมาตรการให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยได้มีการปรับปรุงประกาศต่างๆ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวประมง แต่ทั้งนี้จะต้องอยู่บนพื้นฐานความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำเป็นสำคัญ 

นอกจากนี้ ยังได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ซึ่งประกอบด้วยภาครัฐ ชาวประมงทั้งพื้นบ้านและพาณิชย์ และนักวิชาการ เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทำประมงในน่านน้ำไทย รวมถึงลดปัญหาในการแก้ไขข้อกฎหมายหลักรวมถึงประกาศต่าง ๆ ที่เป็นกฎหมายลำดับรองอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

ส่วนปัญหาด้านแรงงานประมงภาคการประมงนั้น กรมประมงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตลอดมา โดยล่าสุดเมื่อช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา ได้ผลักดันให้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ.2560 ลงวันที่ 26 กันยายน 2560 โดยระบุให้คนต่างด้าวซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ที่ประสงค์จะทำงานบนเรือประมงแต่ไม่มีใบอนุญาตทำงานตามกฎหมาย ให้มาลงทะเบียนเพื่อจัดทำประวัติและยื่นคำขอรับหนังสือคนประจำเรือต่อกรมประมง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ระดับหนึ่ง และในระหว่างนี้กรมประมงก็ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงแรงงานอย่างใกล้ชิดเพื่อหารือแนวทางที่เหมาะสมในการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป

อธิบดีกรมประมง กล่าวว่าปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรสัตว์น้ำ นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมาขึ้นตามลำดับ ดังนั้น หากไม่มีการออกมาตรการต่างๆ มาควบคุมการทำประมงให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ทรัพยากรก็มีแต่ลดน้อยลงไป ซึ่งจะอาจส่งผลกระทบต่อวิถีความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมไปบ้าง แต่ภาครัฐก็ไม่ได้มองข้ามและพยายามให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ภาคการประมงของประเทศไทย สามารถขับเคลื่อนไปได้ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำ