นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ปัจจุบันสมาร์ทโฟน ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งการชาร์จไฟอย่างไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดการระเบิดหรือเพลิงไหม้ได้ เพื่อความปลอดภัย ทาง ปภ. ขอแนะประชาชนชาร์จแบตฯ สมาร์ทโฟนอย่างถูกวิธี โดยเลือกใช้สายชาร์จที่มีคุณภาพ มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ไม่ใช้ของปลอมหรือของเลียนแบบ เพราะเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร ไม่ชาร์จแบตฯ ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันความร้อนสะสม ทำให้แบตฯบวมหรือระเบิด และเกิดประกายไฟได้ 

ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ควรถอดปลั๊กไฟสายชาร์จทุกครั้งหลังใช้งาน ชาร์จแบตเตอรี่เมื่อประจุไฟ อยู่ในระดับร้อยละ 40 เพื่อให้ประจุไฟแบตฯ ทำงานได้ตามปกติ จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตฯ ไม่ปล่อยให้แบตฯ หมด แล้วจึงชาร์จไฟ เพราะแบตฯ จะทำงานหนักเพิ่มเป็น 3 เท่า จึงเป็นสาเหตุให้เครื่องร้อนจัดและเกิดการระเบิดได้ ชาร์จแบตฯ อย่างถูกวิธี โดยเสียบสายชาร์จกับปลั๊กไฟก่อนแล้วจึงค่อยเสียบสายชาร์จกับสมาร์ตโฟน เพื่อป้องกันไฟกระชาก ทำให้แบตฯ เสื่อมสภาพ เป็นสาเหตุให้เกิดระเบิดได้ 

ข้อควรระวังในการชาร์จแบตฯ สมาร์ทโฟน คือ ไม่เล่นสมาร์ทโฟน ขณะชาร์จ เพราะทำให้แบตฯ ทำงานหนักกว่าปกติถึง 40 เท่า ส่งผลให้เครื่องร้อนจัดและเกิดการระเบิดได้ ใช้ปลั๊กไฟสายพ่วงในการชาร์จไฟ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและไฟกระชาก ทำให้แบตฯ มีอายุการใช้งานสั้นลง จึงเป็นสาเหตุ ให้เกิดการระเบิดหรือเพลิงไหม้ได้ ไม่ชาร์จสมาร์ทโฟนในขณะที่ไม่มีคนอยู่บ้าน เพราะเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร ไม่ใช้อุปกรณ์ชาร์จไฟที่ชำรุดเสียหาย อาทิ สายไฟขาด ขั้วสายชาร์จหลวม เพราะอาจถูกไฟฟ้าดูดหรือเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรได้ ทั้งนี้ การชาร์จไฟสมาร์ทโฟนอย่างถูกวิธี จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือแบตฯ ระเบิด ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ได้