สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ทำจดหมายเปิดผนึกถึงสถาบันตุลาการขอให้ทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และตรวจสอบการใช้อำนาจตามประกาศ คำสั่ง คสช. โดยระบุว่า ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมานับแต่มีรัฐประหาร คสช. ได้มีการออกประกาศและคำสั่งที่มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และประกาศ - คำสั่งเหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือจำกัดและคุกคามสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนต้องการใช้สิทธิแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลทหาร รวมถึงเรียกร้องสิทธิและการมีส่วนร่วมในประเด็นต่างๆ ได้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. เป็นเครื่องมือในการจับกุม ควบคุมตัวและดำเนินคดีอยู่เสมอ
คำสั่งที่เป็นเครื่องมือสำคัญคือคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งคำสั่งทั้งสองฉบับนี้ นอกจากจะก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างไร้ขอบเขตและไร้การตรวจสอบแล้ว ยังถูกนำมาใช้แทนกระบวนการยุติธรรมตามปกติ โดยให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงมีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวบุคคลได้ถึง 7 วัน โดยไม่มีการตรวจสอบโดยฝ่ายตุลาการ ทำให้หลักประกันการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนถูกลดทอนลงไปอย่างมาก
กรณีล่าสุดคือ การใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ควบคุมตัวหญิงจำนวน 2 รายเมื่อวันที่6 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยเหตุว่ามีเสื้อยืดมีตราสัญลักษณ์ที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าสื่อความหมายแบ่งแยกการปกครอง ปัจจุบันหญิงหนึ่งในสองราย ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน ทั้งนี้ ในการควบคุมตัวดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่มีการแจ้งเหตุในการควบคุมตัว ไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบโดยศาล และไม่ให้สิทธิในการพบญาติและทนายความ ในขณะที่สถาบันตุลาการ ซึ่งเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยและเป็นกลไกสำคัญในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเอง ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้อำนาจตามคำสั่งดังกล่าวอย่างเต็มที่
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน จึงส่งจดหมายฉบับเพื่อจะสื่อสารและนำเสนอความเห็นต่อฝ่ายตุลาการ เพื่อขอทบทวนบทบาทของที่มีต่อประกาศหรือคำสั่ง คสช. ซึ่งมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนเกินสมควร โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในภาวะที่บ้านเมืองเกิดช่องว่างแห่งความสมดุลของอำนาจ ประชาชนถูกจำกัดลิดรอนสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานโดยไม่ชอบธรรม สถาบันตุลาการซึ่งเป็นสถาบันผู้ใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน และมีภาระในการค้ำจุนหลักนิติธรรม นิติรัฐ การสร้างสมดุลระหว่างการใช้อำนาจรัฐและการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องชอบธรรมของการกระทำของฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะบรรดาประกาศ คำสั่ง หรือกฎหมายที่ออกโดย คสช. และให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบการดำเนินคดีอันเกิดจากผลพวงของการดำเนินการตามประกาศและคำสั่ง คสช.
สมาคมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถาบันตุลาการจะมีส่วนช่วยในการสร้างหลักนิติธรรมและทำให้หลักการสิทธิมนุษยชนที่ถูกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญมีผลจริงในทางปฏิบัติ รวมทั้งช่วยทำให้กระบวนการยุติธรรมของประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ ยุติการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ทับซ้อนและไม่สามารถคาดการณ์ได้ดังเช่นที่เป็นอยู่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง