สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่านายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเปิดเผยว่าเขาได้โน้มน้าวไม่ให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งถอนทัพออกจากซีเรีย และให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อในระยะยาว หลังจากช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายทรัมป์เคยประกาศว่าสหรัฐฯ จะถอนทัพออกจากซีเรียในไม่ช้า
นอกจากนี้ นายมาครงยังโน้มน้าวให้นายทรัมป์จำกัดการโจมตีทางอากาศในซีเรีย หลังวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศสร่วมกันโจมตีทางอากาศใส่ซีเรีย หลังกล่าวหาว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ซึ่งนายทรัมป์ยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่ต้องการอยู่ในซีเรียตลอดไป
ด้านทำเนียบขาวได้แถลงว่าภารกิจของสหรัฐฯ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นายทรัมป์ได้แสดงจุกยืนอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาต้องการให้กองทัพสหรัฐฯ กลับประเทศให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นที่จะทำลายกลุ่มไอเอสให้สิ้นซากและป้องกันไม่ให้กลุ่มไอเอสฟื้นคืนมาได้อีก
สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า ก่อนหน้านี้ นางนิกกี เฮลีย์ ทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติสหรัฐฯ กล่าวว่าจะไม่ถอนทัพออกจากซีเรียจนกว่าบรรลุเป้าหมาย 3 ข้อที่สหรัฐฯ ตั้งไว้ ได้แก่ 1. ไม่มีการใช้อาวุธเคมี ซึ่งเป็นภัยต่อสหรัฐฯ 2. กลุ่มไอเอสพ่ายแพ้แล้ว 3. มีจุดได้เปรียบในการเฝ้าดูว่าอิหร่านกำลังทำอะไร
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังเตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรบริษัทของรัสเซียที่มีส่วนเกี่ยวกับนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ซึ่งจะถือเป็นการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่สนับสนุนรัฐบาลซีเรียเป็น รอบที่ 2 ในรอบ 1 เดือน ขณะที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีกล่าวว่าการโจมตีของตะวันตกจะขุดชนวน "จลาจลระหว่างประเทศ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: