นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การเจริญโตทางเศรษฐกิจลดลงมากในไตรมาส 3 ขยายตัวได้เพียง 3.3% ซึ่งขยายตัวต่ำกว่าที่คาดหมายมาก หลังจากไตรมาสแรกโต 4.8% และ ลดมา 4.6% ในไตรมาสที่ 2 ทั้งนี้มาจาก การส่งออกที่ขยายตัวลดลง และ จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนที่ลดลงมา 5 เดือนติดกัน โดยในเดือน ต.ค. ได้ลดลงถึง 80.61% ถึงขนาดที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ต้องออกมาพูดภาษาจีนเชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม่ เพราะปัญหานักท่องเที่ยวลดลงน่าจะเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลเอง ถึงขนาดที่ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งแล้ว แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนน่าจะยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งการส่งออกน่าจะติดลบต่อ ซึ่งจะทำให้จีดีพีในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ (61) ไม่น่าจะดีนัก อีกทั้งหลายสำนักได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีหน้า (62) จะขยายตัวลดลงกว่าปีนี้ และอาจจะกลับไปโตต่ำกว่า 4 % อีกครั้ง แสดงให้เห็นชัดว่าประเทศไทยยังไม่พ้นการเป็นคนป่วยของเอเซียต่างกับที่นายสมคิดบอก ทั้งนี้การที่นายสมคิด บอกว่าปีหน้าจะเป็นปีทองการลงทุนไทย ก็แสดงให้เห็นว่า 4 ปีกว่าที่ผ่านมาการลงทุนได้ทรุดต่ำมาตลอด และอยากให้นายสมคิดศึกษาให้ชัดว่าทำไมนักลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะนักลงทุนจากต่างประเทศถึงไม่ลงทุน ไม่ใช่จะลด/แลก/แจก/แถม เท่าไหร่ นักลงทุนก็ยังไม่ลงทุน และก็ยังจะลด/แลก/แจก/แถม กันต่อ ถึงขนาดใช้ม. 44 ยกเว้นให้กับบริษัทต่างชาติไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ในบางเรื่องโดยไม่ยอมรับความจริงที่ว่านักลงทุนน่าจะไม่เชื่อมั่นรัฐบาลนี้
เพราะล่าสุดมีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกียวโต มาขอพบและยืนยันว่านักลงทุนญี่ปุ่นไม่ลงทุนในไทย เพราะไม่มั่นใจในรัฐบาลและสภาวะการเมืองไทยในปัจจุบัน หากเป็นเช่นนั้น ปีหน้าก็ไม่น่าจะใช่ปีทองของการลงทุนของไทยอย่างแน่นอน ถ้าหากยังคงเป็นรัฐบาลนี้ นอกจากจะเป็นปีทองการลงทุนของนายทุนที่รัฐเอื้อประโยชน์ให้อย่างเต็มที่ เช่น การลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยแถมการใช้ที่ดินมักกะสันมูลค่าหลายแสนล้านบาทให้ เป็นต้น
นอกจากนี้ราคาสินค้าการเกษตรยังคงตกต่ำอย่างมาก โดยเฉพาะราคายางพารา และ ปาล์มน้ำมัน รายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ยังลดลงมาก มีแต่นายทุนที่ได้ประโยชน์ ซึ่งเห็นได้จากหนี้เสียในระบบธนาคารยังคงเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแสดงว่าเศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นจริง ปัญหาปากท้องของประชาชนยังไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้น หากมีความพยายามที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก็จะยิ่งทำให้ปัญหาทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลและคสช. ได้จัดให้มีการเลือกตั้งตามกำหนด เพื่อฟื้นความมั่นใจของประเทศที่ทรุดต่ำมากว่า 4 ปีแล้ว ประเทศไทยจะได้เดินหน้าได้ ทั้งนี้ตนได้เตือนเรื่องนี้มาตลอด 4 ปีนี้ และ เศรษฐกิจก็เสื่อมถอยจริงมาโดยตลอด จนประชาชนเดือดร้อนแทบจะทนกันไม่ไหวแล้ว โดยพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช) มีแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจที่พร้อมจะนำเสนอแล้ว และมั่นใจว่าประชาชนจะมีรายได้เพิ่มขึ้นและกลับมามีความสุขได้จริง