รัฐบาลจีนสั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเพิ่มอีก 5,207 รายการ รวมมูลค่ากว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าสหรัฐฯที่ถูกขึ้นภาษีครั้งนี้ มีตั้งแต่ ก๊าซธรรมชาติเหลว, เครื่องบิน, ผักแช่แข็ง และผงโกโก้ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่สหรัฐฯจะเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนระลอกใหม่ รวมมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศไว้เมื่อวานนี้
กระทรวงการคลังของจีนออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ระบุว่าจีนไม่มีทางเลือกอื่นที่จะต้องตอบโต้สหรัฐฯด้วยการขึ้นภาษี ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่าหากจีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเพิ่ม สหรัฐฯก็จะดำเนินการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนต่อในรอบที่ 3 ซึ่งจะครอบคลุมสินค้าจีนมูลค่ารวมกว่า 267,000 ล้านดอลลาร์
แม้ว่ารัฐบาลทั้งสองประเทศจะแสดงความพร้อมที่จะเปิดการเจรจาเพื่อไม่ให้ความขัดแย้งด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้ แต่ว่าทรัมป์ก็เพิ่งจะทวีตข้อความโจมตีรัฐบาลจีนว่าตั้งใจโจมตีสินค้าการเกษตรของสหรัฐฯ เพื่อที่จะทำให้ทรัมป์สูญเสียความนิยมจากกลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุนทรัมป์มากที่สุด ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกก็แสดงความกังวลว่าการขึ้นภาษีไปมาระหว่างกันของสหรัฐฯและจีนจะก่อให้เกิดสงครามการค้า ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว จะไม่มีใครเป็นผู้ชนะ และจะมีแต่ผู้ที่เสียผลประโยชน์
นักวิเคราะห์ด้านการตลาดมองว่าทรัมป์พยายามที่จะกดดันจีนให้เปลี่ยนแปลงนโยบายทำการค้าให้เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯมากขึ้นด้วยการขึ้นภาษีสินค้าจีนเพื่อกดดัน แต่วิธีนี้ไม่น่าได้ผลกับจีน เพราะว่าจีนมีนโยบายการเงินและนโยบายการคลังที่เข้มแข็งมาก