นายจอห์น ซิดานตา ซีอีโอของพริมาพลาสต์ บริษัทผลิตหลอดพลาสติกสำหรับดูดน้ำยักษ์ใหญ่ของโลกกล่าวกับเรดิโอ ไฟฟ์ ไลฟ์ว่า การพัฒนาหลอดดูดน้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกำลังประสบกับอุปสรรคใหญ่ แม้เขาจะตระหนักว่า ผู้บริโภคทั่วโลกกังวลกันมากขึ้นเกี่ยวกับมลพิษที่เกิดจากพลาสติกในมหาสมุทร และพื้นที่ฝังกลบขยะ แต่พวกเขายังไม่พบวิธีการผลิตหลอดที่เป็นมิตรและราคาถูก หลังจากใช้เวลาทดลองมากว่า 15 ปี
ปัจจุบัน โรงงานของพริมาพลาสต์ที่อินโดนีเซียผลิตหลอดพลาสติดโพลีโพรพิลีนมากถึง 600 ล้านอันต่อเดือน เพื่อส่งไปยังยุโรปและญี่ปุ่น และแม้คนจะใช้หลอดเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่หลอดเหล่านี้ต้องใช้เวลาย่อยสลายนานหลายปี ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมตัดสินใจลดหรือยกเลิก การใช้หลอดพลาสติกไปเลย เช่นเมืองคอร์นวอลของอังกฤษ กำลังพิจารณาแบนการใช้หลอดพลาสติก
ดีไซเนอร์บางส่วนพยายามตอบสนอง ตลาดด้วยการออกแบบหลอดที่ทำจากไม้ไผ่ โลหะ หรือแก้วออกมา แต่ราคาของหลอดเหล่านี้ก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน ขณะที่หลอดที่ทำมาจากกระดาษก็เปื่อยยุ่ยง่าย ใช้ยาก นายซิดานตาอธิบายว่า หลอดจากแป้งมันฝรั่งหรือแป้งข้าวโพดมีความใกล้เคียงกับหลอดพลาสติก แต่วิธีการผลิตค่อนข้างยุ่งยาก และในขณะที่กล่องนมที่ทำจากกระดาษมีอายุการใช้งานประมาณ 18 เดือน แต่หลอดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีอายุขัยยาวนานขนาดนั้น อาจมีต้นทุนมากกว่าปกติถึง 100 เท่า
นายซิดานตายืนยันว่า หลอดพลาสติกสามารถนำมารีไซเคิลได้ เช่นในญี่ปุ่นที่มักนำหลอดมารีไซเคิลเป็นบรรจุภัณฑ์อื่นๆ หรือเครื่องเขียน แต่หลอดดูดน้ำมีน้ำหนักเบา จึงต้องรวบรวมหลอดให้ได้มากพอ จึงจะคุ้มค่าในการรีไซเคิล
นอกจากนี้ นายซิดานตายังย้ำว่า รัฐบาลทั่วโลกจำเป็นต้องออกกฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้พลาสติกใน อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าบริโภคต่างๆ พร้อมเตือนว่า การบอยคอตพลาสติกไม่ได้ผล เพราะไม่สมเหตุสมผลนักที่จะใช้นโยบายห้ามการใช้พลาสติก แต่ไม่มีทางออกอื่นให้ผู้ผลิตและผู้บริโภค