สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคมว่า นายหลิวเหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน หัวหน้าคณะผู้แทนระดับสูงที่เดินทางเยือนวอชิงตันในสัปดาห์นี้ เปิดเผยว่า จีนกับสหรัฐฯ ตกลงยุติการใช้ท่าทีข่มขู่ซึ่งกันและกัน ที่จะทำสงครามการค้า และเพิ่มอัตราภาษีนำเข้า
เมื่อวันเสาร์ ผู้แทนของรัฐบาลปักกิ่งกับวอชิงตันร่วมกันออกแถลงการณ์ ภายหลังทั้งสองฝ่ายพบหารือกันในกรุงวอชิงตัน ซึ่งคณะผู้แทนเจรจาฝ่ายสหรัฐฯนำโดยรัฐมนตรีคลัง สตีเฟน มนูชิน
แถลงการณ์ระบุว่า จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าและบริการจากฝ่ายอเมริกันเพิ่มขึ้น "ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก" เพื่อลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯที่มีต่อจีนให้ได้ "ในระดับที่มีนัยสำคัญ"
ตามข้อตกลงนี้ จีนจะสั่งซื้อพลังงานและสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น เพื่อลดการเสียเปรียบของฝ่ายอเมริกัน ซึ่งขาดดุลกับจีนปีละ 335,000 ล้านดอลลาร์ฯ
นักสังเกตการณ์ตั้งข้อสังเกตว่า แถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ มีเนื้อหาแสดงเจตจำนงอย่างกว้างๆ ไม่ได้กำหนดรายละเอียดที่เป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ แถลงการณ์ไม่ได้เอ่ยถึงเป้าหมายที่สหรัฐฯเคยเรียกร้องให้จีนสั่งซื้อจากอเมริกาเพิ่มขึ้นปีละ 200,000 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่บอกว่า เป็นข้อเรียกร้องที่เป็นไปไม่ได้
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นเงินถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ฯ โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้ที่จีนฉกฉวยทรัพย์สินทางปัญญา ด้วยวิธีบังคับให้เอกชนอเมริกันต้องร่วมทุนกับกิจการของจีน รวมทั้งตอบโต้ที่จีนบังคับให้บริษัทอเมริกันถ่ายทอดเทคโนโลยี
ฝ่ายจีนปฏิเสธว่าไม่มีการบังคับดังกล่าว และขู่ที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯในสัดส่วนเดียวกัน โดยเล็งเป้าที่จะขึ้นภาษีสินค้าที่มีมูลค่านำเข้าสูง เช่น ถั่วเหลือง ยานยนต์ อากาศยาน.
ภาพ: AP