ไม่พบผลการค้นหา
กกร. ขอรัฐดูแลโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นขนส่งสินค้า ป้องกันสินค้าขาดแคลน หลังประกาศพ.ร.กฉุกเฉิน ของดจ่ายประกันสังคมทั้งนายจ้าง-ลูกจ้าง 4 เดือน จ่ายเงินช่วยเหลือว่างงานเป็นร้อยละ 80

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลไทยได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ณ วันที่ 26 มีนาคม ถึงวันที่ 30 เม.ย. 2563 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) นั้น โดยภาคเอกชนขอให้ภาครัฐดูแลโรงงานโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นยิ่งยวด Critical Industry and Supply Chain (CISC) และการขนส่งสินค้า(Logistics) เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าที่จำเป็นขาดแคลน ทั้งอุตสาหกรรมอาหาร น้ำตาล น้ำมันปาล์ม เครื่องจักรกลการเกษตร การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ พลาสติก แก้วและกระจก เยื่อกระดาษ อลูมิเนียม อุตสาหกรรมยา สมุนไพรเครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ยาง อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งหุ่ม อุตสาหกรรมผู้ผลิตไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ก๊าซ พลังงานหมุนเวียน และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ

0CB50F95-C6D5-440A-BE66-F8B18E8CB628.jpeg
  • นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)

ทั้งนี้ เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับภาคเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้อุตสาหกรรมดังกล่าวหยุดชะงัก ได้เสนอให้ขอให้งดการจ่ายประกันสังคมสำหรับลูกจ้างและนายจ้าง เป็นระยะเวลา 4 เดือน, ให้ภาครัฐเพิ่มเงินช่วยเหลือลูกจ้างที่ว่างงานหรือถูกเลิกจ้างจากเดิมร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 80 , ขอเลื่อนการจ่ายค่าน้ำและค่าไฟออกไป 4 เดือน, ให้ภาคเอกชนหักค่าใช้จ่ายได้ 3 เท่า กรณีใช้งบประมาณเพื่อป้องกัน COVID-19, ให้ระบบสาธารณูปโภคให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง, หน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจติดต่อกับภาคเอกชน สามารถให้บริการทางออนไลน์ได้ และให้ผู้ขนส่งสินค้าสามารถส่งสินค้าได้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :