รายงานข่าวจากศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ระบุว่า ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัว 'พุทธะอิสระ' ผู้ต้องหา เนื่องจากเกรงว่า ผู้ต้องหาจะเข้าไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานจนเป็นอุปสรรค ก่อความเสียหายต่อการสอบสวน และเกรงว่าจะหลบหนี
แม้ว่าก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ศาลอาญารัชดามีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว พุทธะอิสระ หลังทนายความยื่นขอประกัน วงเงิน 150,000 บาท เนื่องจากศาลพิเคราะห์ว่าไม่มีพฤติกรรมหลบหนี โดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
โดยกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 14.20 น. พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำพระพุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม บุคคลตามหมายจับศาลอาญาข้อหาสนับสนุนให้มีการปล้นทรัพย์ อั้งยี่ ซ่องโจร จากกรณีเมื่อครั้งการชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. เมื่อปี 2557
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดยพระสุวิทย์ เวทีแจ้งวัฒนะ นำมวลชนของ กปปส. ปล้นทรัพย์เป็นอาวุธปืนของตำรวจสันติบาลไป มาขออำนาจศาลอาญา รัชดาฯ ฝากขังผลัดแรก ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. - 4 มิ.ย. 2561 โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าว ระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามนำตัว 'พุทธะอิสระ' มาขออำนาจฝากขังที่ศาลอาญารัชดา หลังถูกควบคุมตัวมาสอบสวน ข้อหา อั้งยี่ และซ่องโจร สนับสนุนให้มีการปล้นทรัพย์ ในคดีกรรโชกทรัพย์ 1.2 แสนบาท โรงแรมเอสซีปาร์ค แขวง วังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ในช่วงการชุมนุมของ กปปส. เมื่อช่วงปี พ.ศ. 2557
อย่างไรก็ตาม พุทธะอิสระ ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาฝากขังศาลอาญา โดยมีการเตรียมชุดขาวไว้ให้แล้ว ในกรณีศาลมีคำสั่งอนุญาตฝากขัง และระหว่างที่นำตัวพระพุทธะอิสระมาฝากขังที่ศาลอาญา ได้มีประชาชนที่มาให้กำลังใจกลุ่มคนอยากเลือกตั้งตะโกนด่า พร้อมเสียงโห่ร้อง ขณะที่พระพุทธะอิสระมีสีหน้าเรียบเฉย
ด้านพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม เชิญพระชั้นผู้ใหญ่ 3 วัด ไปสอบปากคำเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เรื่องทุจริตเงินทอนวัด ว่าตนยังไม่ได้รับรายงาน แต่คาดว่านายสุวพันธ์ ตันยุวรรธณะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะมารายงานให้ฟัง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นกระบวนการที่เคยทำมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างนั้นเป็นไปตามหลักฐานที่ มีอยู่ทั้งหมด ทั้ง 3 วัด จากนี้ตำรวจก็นำไปสู่การขยายผล
พร้อมทั้งยอมรับว่ากังวลความรู้สึกของพุทธศาสนิกชน แต่ประชาชนต้องแยกแยะ และเชื่อว่าประเทศไทยยังคงต้องกราบพระอยู่ และนับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนใหญ่
ส่วนการดำเนินคดีขอให้ว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย ทั้งนี้ ตนไม่ได้กำชับ แต่ขอให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ตรงไปตรงมา และเรียนไปยังคณะสงฆ์ควบคู่ไปด้วย
อ่านเพิ่มเติม