สำนักข่าวรอยเตอร์และเคียวโดนิวส์รายงานว่า เจ้าชายฟุมิฮิโตะ เจ้าอะกิชิโนะ พระโอรสพระองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ทรงยินดีที่การหารือรายละเอียดกฎหมายสละราชสมบัติมีความคืบหน้า และทรงคาดหวังว่าสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีจะได้ทรงพักผ่อนพระวรกายโดยไม่ต้องทรงห่วงกังวลเรื่องการปฏิบัติพระราชกรณียกิจในไม่ช้านี้
เจ้าชายฟุมิฮิโตะทรงมีพระดำรัสดังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ก่อนถึงวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งจะทรงมีพระชนมายุครบ 52 พรรษา โดยพระองค์ได้ทรงเผยต่อผู้สื่อข่าวด้วยว่า สมเด็จพระจักรพรรดิทรงมีพระราชประสงค์ให้เจ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมาร พระเชษฐา (พี่ชาย) ของพระองค์ ทรงรับช่วงต่อในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจทั้งหมดทันทีที่พระองค์สละราชสมบัติอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งทรงย้ำว่าจะไม่มีทางเกิดอำนาจทับซ้อนขึ้นเป็นอันขาด
รอยเตอร์ระบุว่าสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะจะทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษาในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ แต่เมื่อปีที่แล้ว พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสอย่างชัดเจนเรื่องความกังวลว่าพระพลานามัยส่วนพระองค์อาจกระทบต่อการปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ซึ่งถูกมองว่ามีความหมายโดยนัยว่าพระองค์ประสงค์ที่จะสละราชสมบัติ แต่เนื่องจากญี่ปุ่นไม่มีธรรมเนียมดังกล่าวมาก่อน จึงไม่มีกฎหมายรองรับ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงพิจารณาร่างกฎหมายเฉพาะกาลเพื่อรองรับการสละราชบัลลังก์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ แต่กว่าที่กฎหมายจะผ่านขั้นตอนหารือและเสนอให้รัฐสภาลงมติเห็นชอบ ไปจนถึงขั้นมีผลบังคับใช้ อาจทำให้พิธีสละราชบัลลังก์เกิดขึ้นในปี 2562 (ค.ศ.2019)
ส่วนเจ้าชายนะรุฮิโตะ พระโอรสพระองค์โตของสมเด็จพระจักรพรรดิฯ ทรงมีพระชนมายุ 57 พรรษา และทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่ 1 ที่จะขึ้นครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระจักรพรรดิ์ และหลังจากนั้นเจ้าชายฟุมิฮิโตะจะทรงเป็นมกุฎราชกุมารแทน ซึ่งพระองค์ตรัสด้วยว่า จะทรงปฏิบัติพระกรณียกิจอย่างเต็มความสามารถในอนาคต แต่เนื่องจากเรื่องดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น จึงอาจต้องประเมินเผื่อการลองผิดลองถูกและความผิดพลาดเอาไว้ด้วย
ทั้งนี้ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระจักรพรรดิและมกุฎราชกุมารของญี่ปุ่นจะรวมถึงการเป็นประธานในพระราชพิธีระดับประเทศต่างๆ การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ และการเสด็จเยี่ยมผู้ประสบภัยพิบัติอื่นๆ โดยในปีนี้มีผู้นำต่างประเทศที่เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิแล้วหลายราย รวมถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
ก่อนหน้านี้ เจ้าชายฟุมิฮิโตะและพระชายา ทรงเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกมาแล้ว เนื่องจากเจ้าหญิงมะโกะ พระธิดาพระองค์โต ทรงประกาศว่าจะหมั้นหมายกับนายเค โคะมุโระ ซึ่งเป็นสามัญชน และพิธีหมั้นจะจัดขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มีนาคมปีหน้า (พ.ศ. 2561) และจะมีพิธีเสกสมรสในวันที่ 4 พฤศจิกายนปีเดียวกัน โดยเจ้าหญิงมะโกะจะต้องทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์ตามกฎมณเฑียรบาลด้วย ขณะที่เจ้าชายอะกิชิโนะได้ทรงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยว่า พระองค์และพระชายาทรงพบกับนายโคะมุโระแล้วหลายครั้ง และทรงชมเชยว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์และมุ่งมั่นไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนเจ้าชายฮิซะฮิโตะ พระโอรสองค์ที่ 2 ของเจ้าชายฟุมิฮิโตะ ทรงมีพระชนมายุ 11 พรรษา และทรงเป็นเจ้าชายพระราชนัดดาพระองค์เดียวของสมเด็จพระจักรพรรดิ ซึ่งจะทำให้พระองค์ทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 เมื่อเจ้าชายนะรุฮิโตะทรงขึ้นครองราชย์ เนื่องจากเจ้าหญิงไอโกะ พระธิดาพระองค์โตในเจ้าชายนะรุฮิโตะ ไม่อาจเป็นรัชทายาทได้ตามเงื่อนไขในกฎมณเฑียรบาลของญี่ปุ่น
เรียบเรียงโดย: ตติกานต์ เดชชพงศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: