ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลเกาหลีใต้เปิดพิมพ์เขียวโครงการ ‘ซิลิคอนวัลเลย์เวอร์ชั่นเกาหลี’ ในการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองปางโย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล พร้อมยกให้การขับเคลื่อนนวัตกรรมเป็นนโยบายเศรษฐกิจหลักของประเทศ

‘ซิลิคอนวัลเลย์เวอร์ชั่นเกาหลี’ มีชื่อเต็มว่า ‘ปางโย เทคโน วัลเลย์ ทู (Pangyo Techno Valley II)’ วางแผนสร้างขึ้นบนพื้นที่ 430,000 ตารางเมตร ภายในปี 2022 และนับเป็นสตาร์ทอัพคอมเพล็กซ์แห่งที่ 2 ของเมืองปางโย จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อสนับสนุนการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ของเหล่าสตาร์ทอัพในท้องถิ่น และเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเริ่มต้นธุรกิจแบบครบวงจร

“เหมือนกับซิลิคอนวัลเลย์ในสหรัฐฯ และในเมืองจงกวนชุน ประเทศจีน มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมีการก่อตั้งศูนย์นวัตกรรม เพื่อสร้างระบบนิเวศให้กับเหล่าสตาร์ทอัพ และบริษัทร่วมทุนเกิดใหม่ นอกจากนั้น มันยังช่วยรองรับการเติบโตของอาชีพที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมในเชิงธุรกิจ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นทั้งทางเศรษฐกิจ และสังคม” คิม ดง-ยอน (Kim Dong-yeon) รัฐมนตรีกระทรวงยุทธศาสตร์ และการคลัง แห่งเกาหลีใต้ กล่าว

ปัจจุบันเมืองปางโยอัดแน่นด้วยบริษัทด้านไอทีจำนวนมาก เป็นที่ตั้งของธุรกิจมากกว่า 1,300 บริษัท ซึ่งมียอดขายรวมกันแล้วกว่า 77 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 60.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และแรงงานอีก 75,000 ชีวิต ขณะเดียวกันการเกิดขึ้นของ ‘ปางโย เทคโน วัลเลย์ ทู’ นั้นจะมาช่วยหล่อเลี้ยงบรรดาสตาร์ทอัพอีก 1,400 บริษัท โดยเสนอพื้นที่ทำงาน บริการให้คำปรึกษา และเงินลงทุนจากกระทรวงการคลัง

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลภายใต้การบริหารประเทศของ ปาร์ค กึน-ฮเย (Park Geun-Hye) อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เคยประกาศแผนแม่บทในการพัฒนาเมืองปางโยให้กลายเป็น ‘หุบเขาเศรษฐกิจสร้างสรรค์’ แต่ส่วนใหญ่กลับเน้นไปที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ขาดแรงสนับสนุนกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ และการอำนวยความสะดวกในการสื่อสารให้กับผู้ประกอบการ

ตามแผนการของรัฐบาลปัจจุบัน ‘ปางโย เทคโน วัลเลย์ ทู’ จะได้รับการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และเป็นสถานที่ฟักไข่ของบรรดาสตาร์ทอัพหน้าใหม่ เพื่อให้ทุกคนแสวงหาโอกาสการเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง ตราบเท่าที่ยังมีความคิดสร้างสรรค์ และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเดินหน้าพัฒนาโปรเจกต์ของตนเองโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเช่าพื้นที่ที่สูงเกินไป

article.jpg

ใครที่มีความคิดสร้างสรรค์ และต้องการเริ่มต้นธุรกิจ หากมาที่ ‘ปางโย เทคโน วัลเลย์ ทู’ จะได้รับบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การใช้เทคโนโลยี คำปรึกษาทางการเงิน เพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ โดยพวกเขาจะสามารถทดสอบนวัตกรรมในอุตสาหกรรมใหม่ได้ด้วย เช่น นวัตกรรม IoT (Internet of Things) อากาศยานไร้คนขับ รถยนต์ขับด้วยตัวเอง และนวัตกรรมการดูแลสุขภาพ

นอกจากนั้น โครงสร้างพื้นฐานของเมืองปางโยยังจะได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่มีถนนที่เชื่อมโยงกับหุบเขาเทคโนโลยี และพื้นที่สำคัญอื่น ๆ เช่น ที่อยู่อาศัยระยะสั้น ซึ่งคนหนุ่มสาวใน ‘ปางโย เทคโน วัลเลย์ ทู’ สามารถมีบ้านพักที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ และใกล้กับที่ทำงาน

หลังจากสร้างเสร็จ ‘ปางโย เทคโน วัลเลย์ ทู’ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์บ่มเพาะด้านเทคโนโลยี และการวิจัยด้วยตนเอง โดยรัฐบาลยังวางแผนที่จะพัฒนาปางโยให้เป็นเมืองชั้นนำของโลก และจะใช้เทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ทั้งหมด เช่น ระบบขนส่งอัจฉริยะ ลานจอดรถระบบใหม่ การใช้พลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ชาญฉลาด

ในการประชุมรัฐมนตรี รัฐบาลยังประกาศแผนการที่จะยกเครื่องระบบการจัดซื้อ เพื่อให้สตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี และผู้ประกอบการทางสังคม ได้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง โดยรัฐบาลวางแผนจะเพิ่มอัตราส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างในกลุ่มสตาร์ทอัพ และบริษัทร่วมทุน เป็น 70 เปอร์เซ็นต์จาก 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ประกอบการทางสังคมจะได้รับคะแนนพิเศษ เมื่อเสนอราคาให้รัฐบาลสั่งซื้อ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนักศึกษามหาวิทยาลัยในเกาหลีใต้หลายคนต้องการเข้าร่วมงานกับซัมซุง ฮุนได และกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ แทนที่จะแบกรับความเสี่ยงในการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เนื่องจากคนส่วนใหญ่กำลังกลัวว่า ความล้มเหลวจะนำไปสู่ความอัปยศทางสังคมที่รุนแรง จนอาจจะทำให้ฟื้นตัว และก้าวต่อไปได้ยาก

ที่มา The Korea Times / The Korea Herald