ชาวอาเซียน โดยเฉพาะชาวมาเลเซียวิพากษ์วิจารณ์รายการมาสเตอร์เชฟของอังกฤษกันอย่างหนัก ว่าไม่มีความรู้และไม่มีความละเอียดอ่อนด้านวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น หลังจากที่ซาเลฮา คาดีร์ โอลปิน ผู้เข้าแข่งขันชาวอังกฤษเชื้อสายมาเลเซียถูกตัดสินให้ตกรอบ เพราะทำเรินดังไก่ โดยนายเกร็ก วอลเลซ หนึ่งในกรรมการให้เหตุผลว่า เรินดังของเธอมีข้อบกพร่อง เพราะหนังไก่ในเรินดังไม่กรอบ ทำให้เขากินอาหารจานนี้ไม่ได้เลย รวมถึงเครื่องแกงบนหนังไก่ด้วย
เรินดังเป็นอาหารยอดนิยมของมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์และบรูไน มักทำในโอกาสพิเศษที่มีแขกมาเยือนหรือในช่วงเทศกาล โดยขั้นตอนการทำจะโขลกสมุนไพรและเครื่องเทศใส่กะทิ และนำไก่ เนื้อวัว หรือเนื้อแกะมาเคี่ยวหลายชั่วโมงจนเนื้อนุ่ม ดังนั้น หนังไก่ในแกงเรินดังแบบดั้งเดิมจะไม่กรอบไม่อยู่แล้ว
หลังรายการออกอากาศไปได้ไม่นาน ชาวมาเลเซียต่างแสดงความไม่พอใจว่านายวอลเลซทำตัวเป็นคนขาวที่พยายามอธิบาย เรื่องอาหารท้องถิ่นให้กับโอลปินที่เป็นชาวมาเลเซียฟัง ทั้งที่ตัวเองไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรินดังเลยแม้แต่น้อย เดือดร้อนไปถึงนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ถึงกับออกมาทวีตข้อความถามว่า เคยมีใครกินเรินดังที่หนังไก่กรอบด้วยหรือ?
เมื่อเกิดกระแสดราม่าขึ้น นายจอห์น โทโรด กรรมการรายการมาสเตอร์เชฟอีกคนก็ออกมา ทวีตว่า เรินดังเป็นของอินโดนีเซีย เป็นเรื่องยอดเยี่ยมมากที่เห็นทุกคนตื่นเต้นกันขนาดนี้ พร้อมตบท้ายด้วยคำว่า นมัสเต ซึ่งเป็นภาษาสันสกฤต ที่ชาวอินเดียนิยมใช้ทักทายกัน
ทวีตของนายโทโรด ยิ่งทำให้คนออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันหนักขึ้นว่าเขาพยายามเสี้ยมให้ชาว มาเลเซียกับอินโดนีเซียทะเลาะกันว่าเรินดังเป็นอาหารประจำชาติของตัวเอง แต่การเสี้ยมของเขาไม่ได้ผลเพราะชาวมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และบรูไนที่มีเรินดังเป็นอาหารท้องถิ่นกลับร่วมใจกันถล่มทวิตเตอร์ของนายโท โรดว่านอกจากจะสร้างความแตกแยกแล้ว เรินดังของทุกชาติก็ไม่มีไก่ที่หนังกรอบเช่นกัน จนนายโทโรดต้องลบทวีตออกไป
ด้านนางวิกกี เทรเดล ข้าหลวงใหญ่ของอังกฤษประจำมาเลเซีย แ���ะมีเชื้อสายมาเลเซียพยายามลดความตึงเครียดระหว่างอังกฤษและชาติอาเซียน ด้วยการทวีตว่าเรินดังเป็นอาหารประจำชาติของมาเลเซีย ไม่ควรไปสับสนกับเรินดังของอินโดนีเซีย เรินดังสามารถทำจากไก่ แกะ หรือเนื้อวัว หนังของมันไม่เคยกรอบ และไม่ควรสับสนกับไก่ทอดที่เสิร์ฟมากับนาซิเลอมัก