เซบาสเตียน ปิเญรา ประธานาธิบดีชิลี ถูกตำรวจท้องถิ่นเมืองคาชากัว สั่งปรับเป็นเงินจำนวน 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (2.5 ล้านเปโซชิลี) หรือราว 104,000 บาท จากการที่ผู้นำชิลีถ่ายรูปใกล้ชิดประชาชนรายหนึ่งโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นกฎเหล็กของรัฐบาลช่วงโควิด-19 ระบาด
ผู้นำชิลีวัย 71 ปี แถลงว่า ช่วงวันศุกร์ที่ 4 ธ.ค. ระหว่างออกไปเดินเล่นชายหาดใกล้บ้านพักส่วนตัวในเมืองคาชากัว (Cachagua) มีสตรีรายหนึ่งจำได้ว่าเป็นประธานาธิบดี จึงขอเข้ามาถ่ายรูปคู่ด้วยในลักษณะที่ใกล้ชิดกัน โดยทั้งคู่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย
หลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ผู้นำชิลีได้แถลงขอโทษประชาชน และยอมจ่ายค่าปรับดังกล่าวตามกฎหมาย
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปิเญรา ตกเป็นที่วิจารณ์ของสาธารณชน ก่อนหน้านี้ เขาเคยออกไปร่วมรับประทานพิซซ่าในคืนที่ประชาชนชาวชิลีออกมาเดินขบวนชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงซันติอาโก เมื่อปีที่แล้ว รวมถึงกรณีถ่ายรูปที่จตุรัสใจกลางเมืองซึ่งเคยถูกใช้เป็นสถานที่ชุมนุม พร้อมคำบรรยายว่า โควิดทำให้ผู้ประท้วงต้องเก็บตัวอยู่บ้าน
สำหรับชิลี มีกฎเข้มงวดเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะทุกแห่ง ผู้ฝ่าฝืนมีโทษตั้งแต่ปรับจนถึงจำคุก โดยสถานการณ์ระบาดของชิลีพุ่งถึงจุดสูงสุดช่วงเดือน พ.ค. - มิ.ย. ซึ่งเป็นฤดูหนาวของซีกโลกใต้ ก่อนที่จำนวนผู้ติดเชื้อชะลอตัวลงในเดือน พ.ย.
ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อในชิลีกลับมาสูงขึ้นอีกระลอก จนรัฐบาลต้องบังคับใช้ข้อจำกัดและมาตรการต่างๆ อีกครั้ง โดยชิลีมียอดป่วยสะสมที่ 581,135 ราย นับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในเดือน มี.ค. เสียชีวิตสะสม 16,051 ราย
ที่มา : Reuters