พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษา (ฝ่ายการเมือง) ของรองนายกรัฐมนตรี (ภูมิธรรม เวชยชัย) กล่าวถึงกรณี เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันเศรษฐกิจไทยไม่วิกฤต แค่โตต่ำ ดอกเบี้ยเป็นกลาง ว่า ดูเหมือนว่าตนกับเศรษฐพุฒิ จะไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกัน ทำไมตนรู้สึกได้ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังวิกฤต พี่น้องประชาชนกำลังลำบาก ไม่ว่าจะเรื่องปากท้อง หนี้สิน การทำมาหากิน ที่ดูฝืดเคืองไปหมด ทั้งที่รัฐบาลปัจจุบันก็ทำงานอย่างเต็มที่ แต่กลับบอกว่าเศรษฐกิจไทยไม่วิกฤต แค่โตต่ำ
ตนอยากรู้ว่า เศรษฐพุฒิ ได้ลงจากตึกบ้างหรือเปล่า ดูข่าวเสพโซเซียลบ้างหรือไม่ เคยไปเดินตลาดสด ตอนเช้า ไปซื้อกับข้าวตลาดเย็นเหมือนคนทั่วไปบ้างไหม มีโอกาสได้พูดคุยซึมซับรับรู้ปัญหาของพ่อค้าแม่ขายบ้างหรือยัง จะเป็นกรุงเทพหรือต่างจังหวัดทุกครั้งที่ตนได้มีโอกาสพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบ ประชาชนทุกหย่อมหญ้าก็สะท้อนปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน ขนาดคุณสรยุทธ ฯ ถามลูกเพจว่า “คุณคิดว่าเศรษฐกิจไทยวันนี้ “วิกฤต” หรือ “ไม่วิกฤต” คนเข้ามาตอบ 200,000 กว่า ก็ยังบอกว่า วิกฤต 93% ไม่วิกฤต 7% ดูเหมือนเศรษฐพุฒิ จะเป็นคนส่วนน้อย และน่าจะเป็นส่วนที่น้อยมากๆ ด้วย ถึงมองไม่เห็นปัญหา ที่กำลังสะสมและรอระเบิดอยู่ สัญญาณเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ส่งออกมา ทั้งหนี้เสีย รถถูกยึดสูงสุด ในรอบ 5 ปี สัญญาณเหล่านี้ไม่ได้รับบ้างเลยหรือ
การที่ เศรษฐพุฒิ บอกว่าเป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์ขณะที่รักษาความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องนี้ตนเห็นว่าความเป็นอิสระของ เศรษฐพุฒิ เทียบไม่ได้กับสิ่งที่พี่น้องประชาชน 60 ล้านคนจะต้องเผชิญ หากความอิสระ ที่ เศรษฐพุฒิ อ้าง เกิดความผิดพลาดขึ้น วิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 40 คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด
พร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า เศรษฐพุฒิ อยู่บนหอคอยงาช้าง อยากให้เลิกมองจากข้างบนลงล่าง อยากให้มองจากข้างล่างขึ้นไปข้างบนบ้าง มองแบบคนรากหญ้า ชาวไร่ชาวนา ผู้ใช้แรงงาน พ่อค้าแม่ขาย ท่านก็จะเห็นสภาพรวยกระจุกจนกระจาย จะรู้ว่าเศรษฐกิจไทยวิกฤตแค่ไหน ความร่ำรวยของธนาคาร กำไรที่ท่านได้ ค่าต๋งที่ท่านเก็บก็มาประชาชนทั่วไปทั้งนั้น ท่านจะเอากำไรของธนาคารมาเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้
เศรษฐพุฒิ ควรออกไปซึมซับรับรู้ปัญหาของชาวบ้าน ถ้าเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ดีก็ควรมองความเดือดร้อนจากด้านล่างขึ้นไปข้างบน เศรษฐพุฒิ คุมนโยบายทางการเงิน ควรเห็นใจรัฐบาลที่ คุมนโยบายทางการคลังด้วย สภาพรวยกระจุกจนกระจายเป็นปัญหาที่ค้างคามานานรัฐบาลกำลังจะเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้หมดไป ทุกภาคส่วนก็ควรร่วมด้วยช่วยกัน