กรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ และเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร่วมแถลงความคืบหน้าการพิจารณาของกรรมาธิการพิจารณายังคงอยู่ในส่วนหน่วยงานรับงบประมาณของกรมศุลกากร งบประมาณ 4,095 ล้านบาท กรมสรรพสามิต 2,194 ล้านบาท และกรรรพากร วงเงิน 9,569 ล้านบาท ในสังกัดกระทรวงการคลัง ซึ่งวันนี้ยังได้พิจารณาในสวนงานบริหารหนี้สาธารณะ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 

โดยมีกรรมาธิการบางส่วนกังวลเรื่องการจัดเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้า ว่าไม่ควรอนุญาตให้มีการจำหน่ายในประเทศไทย เนื่องจากในหลายประเทศเช่นอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบยุโรป ได้มีประกาศห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า อันเนื่องมาจากผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีปัญหาด้านสุขภาพตามมา พร้อมทั้งกรรมาธิการยังได้สอบถามแนวทางการรับมือถึงปัญหาดังกล่าว เนื่องจากหากเกิดปัญหาด้านสุขภาพอาจทำให้รัฐบาลต้องนำงบประมาณของแผ่นดิน มาเยียวยารักษาโรคที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก เช่น โรคถุงลมโป่งพอง และโรคทางเดินหายใจ และมีกรรมาธิการถามถึงแนวทางเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ ที่อาจได้รับผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้า

ส่วนเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกกรรมาธิการ แถลงเพิ่มเติมว่า กรรมาธิการได้หารือเรื่องการจัดเก็บภาษี ที่ต้องการให้มี หน่วยงานจัดเก็บภาษีองค์กรกลางหน่วยงานหนึ่งดำเนินการ กำลังหารือกันข้อดี-ข้อเสียมนเรื่องนี้ด้วย ว่าจะเป็นหน่วยงานได้ ทั้งกรมสรรพกร กรมสรรพสามิต หรือกรมศุลกากร และกรรมาธอการกำลังพิจารณาประเด็นที่น่าสนใจ เรื่องหนี้สาธรณะต่อจีดีพี สถานะการเงินการคลังของผระเทศไทย  สืบเนื่องมาจากอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ในสัปดาห์ที่ผ่นมา  

ชี้หลายรัฐบาลกู้เงิน

โดยชี้แจงว่าการกู้เงินโดยออก พ.ร.ก.ให้กระทรวงการคลังที่ผ่านมามี 5 ฉบับ ฉบับแรกเมื่อสมัยนายกฯทักษินออก พ.ร.ก.กู้เงิน 7.8 แสนล้านบาทเมื่อปี 2545 เพื่อฟื้นฟูสถาบันการเงิน / ปี 2552 ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กู้ไม่เกิน 4 แสนล้าน ไม่มีรายละเอียดเช่นกัน / ปี 2555 พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ... 3.5 แสนล้านบาท สมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ 3 ฉบับเป็นเงินกู้ที่ไม่มีรายละเอียด เพราะเป็น พ.ร.ก.ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวม1.53 ล้านล้านบาท 

ต่อมาสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ออก พ.ร.ก.2 ฉบับ คือ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้าน และ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท รวม 1.5 ล้านล้านบาท และทั้งหมดจะรวมเป็นหนี้สาธารณะของประเทศ ซึ่งการออก พ.ร.ก.ที่ผ่านมามีลักษณะตีเช็คเปล่า เป็นอำนาจของรัฐบาลที่ทำได้ ศาลก็เคยชี้ขาดไว้แล้ว  

ส่วนงบประมาณ สปน.มีตัวเลขดอกเบี้ย 1.8 แสนล้านบาท เป็นตัวเลขที่สูงมาก จึงสอบถามการคำนวณหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ใช้ค่าตัวไหนสำหรับคำนวณ ใช้ตัวเลขที่เกิดที่เกิดขึ้นแล้วหรือหนี้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพราะจากอภิปราย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงว่าเป็นตัวเลขหนี้ที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งตรงกับ สปน. โดยผอ.สปน.กำลังชี้แจง และจะแถลงข่าวต่อไป