'ประยุทธ์' ลั่น 'ผิดคือผิด ไม่ผิดคือไม่ผิด' ปัดลงพื้นที่สร้างกำลังใจ

นายกฯ เผยฝ่ายกฎหมายฟังศาล รธน.ชี้ขาดบ้านพักทหาร แจงลงพื้นที่ 'สมุทรสงคราม' ปัดสร้างกำลังใจตัวเอง ย้ำเป็นกำหนดการล่วงหน้าที่ทำเป็นปกติ ด้าน ศาล รธน. ออกประกาศพื้นที่รักษาความปลอดภัย พร้อมใช้ช่องยูทูบถ่ายทอดสดการอ่านคำวินิจฉัย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค. 2563) ศาลรัฐธรรมนูญ จะอ่านวินิจฉัยปมบ้านพักในค่ายทหาร ว่าฝ่ายกฎหมายจะเข้าไปฟังการพิจารณาหรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อย่ามาถาม ว่าจะส่งใครไปฟังคำตัดสิน เพราะฝ่ายกฎหมายไปฟังอยู่แล้ว เพราะความสนใจอยู่ที่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไรมากกว่า ดังนั้นอย่ามาถามว่าส่งใครไปฟังคำตัดสิน เพราะถ้าเข้าไปฟังก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน จึงอยากให้แยกแยะหน้าที่กันให้ดี

ส่วนการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ไม่เกี่ยวกับการสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน ถ้าทำงานแบบนี้ก็ทำงานไม่ได้ ที่ผ่านมามีคดีความก็ชี้แจงกันไปก็เท่านั้น ผิดก็คือผิด ไม่ผิดก็คือไม่ผิด จบเหมือนคดีทั่วไป ยืนยัน เครพผลการตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมย้ำว่า การลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นการวางกำหนดการไว้ล่วงหน้า 2-3 อาทิตย์แล้ว เพราะต้องใส่ในตารางการทำงาน ซึ่งตนทำงานทุกวันอยู่แล้ว มีทั้งงานเอกสาร มีคนเข้ามาพบปะ เพื่อหารือปรึกษา กลับบ้านไปก็ยังทำงาน มีการติดต่องานทำงานผ่านโทรศัพท์ สั่งงานผ่านไลน์ ซึ่งไม่เคยหยุดทำงาน ดังนั้นอย่าไปมองว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีอยู่ที่ไหน เพราะทุกวันนี้การทำงานมีวิธีหลายอย่าง

อย่างไรก็ตาม เมื่อแถลงข่าวเสร็จ ระหว่างเดินขึ้นตึกไทย นายกรัฐมนตรี ได้บ่นสื่อมวลชนว่า "ถามไม่มีความคืบหน้า ไม่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ถามให้เกิดแต่ความขัดแย้ง"

เผยกำหนดการนายกฯพรุ่งนี้ ปฏิบัติภารกิจนอกสถานที่

สำหรับภารกิจของนายกรัฐมนตรีวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ พบว่า มีกำหนดการตั้งแต่ช่วงเช้าดังนี้

07.00 น นายกรัฐมนตรี ออกจาก พล.ม. 2 รอ.
07.30 น ถึงสนามกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม
07.50 น นายกรัฐมนตรี สักการะหลวงพ่อบ้านแหลม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสงคราม และ นมัสการพระสมุทรวชิรโสภณ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร
08.20 น. นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมการท่องเที่ยวชุมชน ณ วิสาหกิจชุมชน ริมคลองโฮมสเตย์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
10.15 น. นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมการดำเนินกิจกรรมของหมู่บ้านรางวัลพระราชทานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
12.20 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงสนามกีฬา จังหวัดสมุทรสงคราม
12.30 น. ออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์
13.00 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางถึง พล.ม. 2 รอ.

ศาล รธน.ประกาศพื้นที่รักษาความปลอดภัย

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าวระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) หรือไม่ ในวันพุธที่ 2 ธ.ค. 2563 เวลา 15.00 น. นั้น เพื่อรักษาความเรียบร้อยในบริเวณที่ทำการศาลและเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และเพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจรณาของศาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ศาลมีคำสั่งดังนี้

กำหนดบุคคลให้เฉพาะผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง ผู้รับมอบอำนาจหรือผู้รับมอบฉันทะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น อยู่ในห้องพิจารณาคดีเพื่อรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยของศาลในวันดังกล่าว และให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจัดให้มีช่องทางการรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยของศาลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและสื่อมวลชน
ออกประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง อาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย พ.ศ. 2563

แจ้งสื่อเตรียมถ่ายทอดสดคำวินิจฉัยผ่านยูทูบ

ต่อมา ประชาสัมพันธ์สื่อมวลชน ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ยังแจ้งผ่านสื่อมวลชนด้วยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ และอ่านคำวินิจฉัย คดีบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันพุธที่ 2 ธ.ค.นี้ เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป นั้น

ขออนุญาตเรียนให้ทราบแนวทางปฏิบัติของสื่อมวลชน ดังนี้ (1) ทางศาลจะทำการถ่ายทอดสัญญาณเสียงบริเวณทิศเหนือของอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (2) ถ่ายทอดภาพและเสียงผ่านช่องทาง Youtube ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยท่านสามารถเข้า Youtube และกดค้นหาคำว่า “สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ” เพื่อรับชมการอ่านคำวินิจฉัยดังกล่าว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้